ตราด - ยังไร้เงา “มิ้น-ฟาฮัดบ้านออมทอง” ชาวบ้านเมืองตราด และใกล้เคียงแห่ดักรอหน้าบ้านหลังถูกหลอกออมทองราคาถูกแต่สร้างผลกำไรงามเท่าราคาจริง สุดท้ายถูกเททำสูญเงินรวมกันกว่า 100 ล้านบาท ล่าสุด วันนี้แจ้งความเพิ่มอีก 104 ราย เสียหายรวม 40 ล้านบาท
จากกรณีที่ชาวบ้านใน จ.ตราด และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 1,000 คน ถูกหลอกออมทองราคาต่ำแต่สามารถสร้างผลกำไรงามได้เท่าราคาจริง จนทำให้มีผู้หลงเชื่อสูญเงินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายกว่า 20 คน นำหลักฐานการโอนเงินเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.วุฒิชัย เหล่าบุตรศรี หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด เพื่อให้เอาผิดต่อ น.ส.เกวลิน ประมาณพล หรือมิ้น อายุ 25 ปี แม่ทีมตั้งวงออมทองราคาต่ำกว่าราคาตลาด และที่ผ่านมา ยังมีชาวบ้านพากันไปดักรอ น.ส.มิ้น ตลอดทั้งคืนแต่ยังไม่พบตัว หลัง น.ส.มิ้น ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่องการยกเลิกวงออมทองและจะไม่หนีไปไหนนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ท.วุฒิชัย เหล่าบุตรศรี หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตราด นำหมายศาลจังหวัดตราด เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 56/2 ม.8 ถนนเนินตาแมว ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด ซึ่งเป็นบ้านของ นายประดิษฐ์ มัดรอ อายุ 52 ปี บิดาของ นายอนุชา มัดรอ หรือฟาฮัด อายุ 25 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.เกวลิน หรือมิ้น ประมาณผล ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบว่า ถูกปิดเงียบ มีรถยนต์จอดไว้เพียงคันเดียวและไม่พบตัวนายอนุชา รวมทั้ง น.ส.เกวลิน มีเพียง นายประดิษฐ์ เท่านั้นที่เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้มีผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และเกาะติดการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ส่วนญาติพี่น้อง นายอนุชา ได้ทยอยเดินทางมาร่วมติดตามการตรวจค้นบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาตรวจค้นอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง พบเพียงสมุดจดรายชื่อลูกบ้านออมทองกว่า 100 รายชื่อ พร้อมยอดเงิน นอกจากนั้น ยังยึดซองใส่ทองจำนวนหนึ่ง ส่วนสมุดบัญชีและทรัพย์สินมีค่าของผู้ต้องหาไม่พบอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่าผู้ต้องหาได้ขนย้ายทรัพย์สินและสมุดบัญชีออกจากบ้านไปแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานที่ยึดได้ทั้งหมดส่งให้แก่ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อรวบรวมไว้เป็นสำนวนต่อไป
ด้าน นายประดิษฐ์ บิดาของ นายอนุชา มัดรอ หรือฟาฮัด กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของตนเองโดยมีลูกชายพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งตนเองทำงานอยู่ที่เกาะช้าง และจะกลับบ้านอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาลูกชายได้พา น.ส.มิ้น เข้ามาพักอาศัยอยู่ด้วย และได้เริ่มตั้งวงบ้านออมทอง ซึ่งในขณะนี้ตนเองได้พูดตักเตือนเพื่อให้ระมัดระวังในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแล้ว
สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ และยังทำให้มีผู้เสียหายจำนวนเดินทางมายังบ้านของตนเอง และหลังเกิดเรื่องก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ วันนี้จึงขอฝากแจ้งผ่านสื่อมวลชนให้เข้ามอบตัวให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดในวันนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มอีก 104 ราย โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกันมากถึง 40 ล้านบาท