กาฬสินธุ์ - ฝนตกหนักหลายพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งแต่เช้า ส่งผลเกิดน้ำท่วมถนนหลายสาย จราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำเพิ่มถึงกว่า 30% ของความจุแล้ว หลังฝนตกติดต่อกันนานกว่า 4 วัน
วันนี้ (17 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ตั้งแต่ช่วงเช้านานกว่า 1 ชั่วโมง ทั้งที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังถนนหลายสาย โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกไฟแดงป่าไม้ และถนนสายต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ระดับน้ำหลายจุดสูงกว่า 60-80 เซนติเมตรเนื่องจากระบายไม่ทัน
ส่งผลให้ยานพาหนะสัญจรผ่านไปยากลำบาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ การจราจรติดขัดเกือบทุกเส้นทาง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้ปกครองส่งบุตรหลานไปโรงเรียนและเดินทางไปทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ต้องระดมกำลังคอยบริการจัดการจราจรท่ามกลางสายฝน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกไฟแดงป่าไม้ และจุดต่างๆ เร่งระบายน้ำออก คาดว่าน่าจะใช้เวลานานกว่า 3-4 ชั่วโมงสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่สถานการณ์เขื่อนลำปาวล่าสุด นายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากมีฝนตกติดต่อกันต่อเนื่องในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำปาวเฉลี่ยวันละ 5-10 ล้าน ลบ.ม. และล่าสุดเช้าวันนี้มีน้ำไหลเข้า 17 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 610 ล้าน ลบ.ม. จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม. หรือ 30.8 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ การส่งน้ำเพื่อการเกษตรเสริมน้ำฝนนั้น เขื่อนฯ ได้ปรับลดปริมาณน้ำที่ส่งเข้าคลองลงจากเดิมเฉลี่ยวันละ 3.4 ล้าน ลบ.ม. เหลือเฉลี่ยวันละ 2.7 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้สมดุลกับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่มีฝนตกลงมา ซึ่งหากเกษตรกรมีความต้องการและมีภาวะฝนทิ้งช่วง หรือมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่อไป