ลำปาง - อิทธิพลพายุซินลากูยังไม่มากพอ..ระดับน้ำใน 2 เขื่อนหลักของลำปางยังมีไม่ถึง 50% เผยแม้ฝนตกทำน้ำทะลักเข้าเขื่อนกิ่วคอหมาถึง 300 ลบ.ม./วินาที แต่วันนี้ยังกักเก็บน้ำได้แค่ 38.76%
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จ.ลำปาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วคอหมา ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม ที่ถือว่าเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดของจังหวัดลำปางที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากที่สุดถึง 170 ล้าน ลบ.ม.
หลังจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้ต้นน้ำคือ อ.เมืองปาน อ.วังเหนือ เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านรวม 4 อำเภอ ทรัพย์สินทางราชการโดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างสาธารณะ เช่น สะพาน เสียหายหลายจุด พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก และมวลน้ำดังกล่าวที่ไหลจากดอยหลวง-แม่น้ำวัง และแม่น้ำสาขาต่างๆ ก็จะไหลเข้าสู่เขื่อนกิ่วคอหมาเป็นจุดแรก
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ณ ปัจจุบันเขื่อนกิ่วคอหมามีปริมาณน้ำกักเก็บ 38.76% คือประมาณ 66 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะช่วงที่ฝนตกมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเกือบ 300 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ก็ยังไม่มากพอ เพราะทางกรมชลประทานยังคงมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ให้แนวทางสำหรับชลประทานในการไปตรวจสอบและสำรวจเส้นทางไหลของน้ำทุกเส้นทางที่น้ำจะเข้าเขื่อนกิ่วคอหมา เมื่อสำรวจแล้วพบว่าเส้นทางไหนอาจจะถูกกีดขวางทางน้ำก็ให้มีการขุดลอกเพื่อให้น้ำผ่านเข้าเขื่อนได้สะดวก และจะช่วยป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและพื้นที่ต่างๆได้ รวมถึงปริมาณน้ำจะได้ไหลเข้าเขื่อนได้อย่างเต็มที่ไม่เสียเปล่า ขณะเดียวกัน ขณะนี้มีฝนตกทำให้ท้ายเขื่อนไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ ขอให้พิจราณาปิดการระบายน้ำออกจากเขื่อนเป็นการชั่วคราวเพื่อให้เขื่อนรับน้ำเข้าให้ได้มากที่สุดเพื่อรองรับในช่วงฤดูแล้งด้วย
ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค.) เขื่อนกิ่วคอหมาได้หยุดการระบายน้ำออกจากเขื่อนเป็นการชั่วคราว ส่วนเขื่อนกิ่วลมซึ่งเป็นเขื่อนอันดับสองที่รองรับน้ำจากเขื่อนกิ่วคอหมา ความจุ 106 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีปริมาณน้ำที่กักเก็บอยู่ที่ 43.6 ล้าน ลบ.ม. หรือ 41% รวมทั้งสองเขื่อนขณะนี้มีน้ำที่กักเก็บเพียง 109.6 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น