ตราด - พายุหมุนเขตร้อน "ซินลากู" ทำเรือประมงพื้นบ้าน เรือพาณิชย์กว่า 500 ลำใน จ.ตราด ต้องจอดนิ่งยังท่าเทียบเรือต่างๆ หลังไม่สามารถออกทำประมงได้เป็นวันที่ 2 ด้านเจ้าท่าเขต 6 เตือนเรือทุกประเภท รวมถึงเรือเฟอร์รี่งดออกจากฝั่งหากคลื่นลมผิดปกติ
จากอิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อน "ซินลากู" ที่เคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยจนทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ และยังส่งผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสารใน จ.ตราด หลังเกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ทำให้เรือโดยสารซึ่งนำนักท่องเที่ยวกว่า 300 ชีวิต เดินทางออกจากเกาะกูด ต้องวิ่งฝ่าคลื่นแรงด้วยใจระทึกตลอดทั้งวันช่วงวานนี้นั้น
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าพายุหมุนเขตร้อน "ซินลากู" ยังทำให้เรือประมงและเรือพาณิชย์รวมกว่า 500 ลำใน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ต้องหยุดออกทำประมงและต้องนำเรือเข้าจอดยังท่าเรือต่างๆ ในพื้นที่เพื่อหลบคลื่นลมแรงเป็นวันที่ 2
โดยพบว่าบริเวณท่าเรือบ้านศาลเจ้า และท่าเรือบ้านคลองมะขาม ต.หาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดจอดเรือประมงพื้นบ้าน มีเรือกว่า 250 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือประมงขนาดเล็กที่ต้องหากินตามแนวชายฝั่งด้วยการวางอวนลอยปลา กุ้งและปู พากันจอดเทียบท่าหลังคลื่นแรง และคาดว่าอีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะสามารถออกทะเลเพื่อวางอวนลอยได้
เช่นเดียวกับที่บริเวณท่าเรือกัลปังหา และท่าเรือชลาลัย ต.หาดเล็ก พบว่ามีเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่กว่า 300 ลำ พากันจอดเทียบท่าเพื่อรอให้คลื่นลมสงบ หลังในช่วง 2 วันที่ผ่านมา คลื่นลมในทะเลหน้าเกาะกูด มีความรุนแรงจนไม่สามารถทำประมงได้ ทำให้ไต๋เรือต้องเปลี่ยนแผนจากการออกทะเล หันมาสั่งการให้ลูกเรือทำการซ่อมแซมอวนและเครื่องมือทำประมงแทน
ขณะที่ นายวิระฉัตร ลีละกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าเขต 6 สาขาตราด กล่าวว่าภาวะคลื่นลมแรงในท้องทะเล จ.ตราด จะมีไปจนถึงวันที่ 6 ส.ค.นี้ โดยสำนักงานเจ้าท่าได้แจ้งให้ผู้ประกอบการเดินเรือทราบแล้ว และหากพบว่าเกิดภาวะคลื่นลมแรงมากกว่าปกติขอให้งดเดินเรือโดยสารในทันที เช่นเดียวกับผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ที่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการออกจากท่า หากเกิดสถานการณ์คลื่นลมไม่ปกติด้วยเช่นกัน