พิษณุโลก - “หมอวรงค์” ยันตรวจสอบแล้ว 15 รายไม่ได้เงินจริง แต่ให้เวลาคณะก้าวหน้าถึงพรุ่งนี้ (8 ก.ค.) โชว์สเตทเมนต์ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ช่วยผู้ได้รับผลกระทบโควิด พร้อมเปิดใจอนาคตต้องลงรับเลือกตั้งแน่แต่ไม่รีบ เชื่อ “ลุงตู่” อยู่ยาว
กรณี "คณะก้าวหน้า" ได้จัดกิจกรรมในโครงการ "เมย์เดย์ เมย์เดย์" เปิดรับเงินบริจาคจากคนทั่วไปเพื่อนำไปจ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีผู้บริจาคทั้งสิ้นประมาณ 7.2 ล้านบาท จ่ายให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 2,427 คน ซึ่งต่อมามีการตั้งข้อสงสัยว่าคณะก้าวหน้าได้จ่ายเงินจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
ทำให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ประกาศท้าให้คณะก้าวหน้าโชว์สเตทเมนต์เพื่อยืนยันว่ามีการจ่ายเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบจริง
ล่าสุดวันนี้ (7 ก.ค.) นพ.วรงค์เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่บ้านพักในจังหวัดพิษณุโลกว่า ไม่ต้องตรวจสอบผู้ที่ถูกระบุว่าได้รับเงินทั้ง 2,427 ราย ตามที่คณะก้าวหน้าระบุ ซึ่งตนได้พูดคุยกับทีมงาน กระทั่งสุ่มตรวจจากรายชื่อเพียง 15 รายชื่อ ก็พบว่าไม่ได้มีการโอนเงินจริง จึงให้เวลาคณะก้าวหน้า 48 ชั่วโมงเอาสเตทเมนต์มายืนยัน ว่ามีการจ่ายเงินจริงหรือไม่ เพียงแค่ 15 รายชื่อเท่านั้น
“ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เชื่อว่าคณะก้าวหน้าก็ควรนำมาโชว์ได้แล้ว แต่ยังรอเขาถึงพรุ่งนี้ คือ 8 ก.ค. 63”
นพ.วรงค์บอกอีกว่า ตนมีข้อมูลในมือแล้วว่าเขาไม่ได้โอน เพียงแต่ให้เกียรติเขา เพื่อเอาหลักฐานสเตทเมนต์มาโชว์ได้ไหม ถ้าโชว์ไม่ได้ อาจต้องมีเรื่องต่อว่าเงินที่รับโอนมาแล้วเอาไปเก็บไว้ที่ไหน มีการทุจริตเกิดขึ้นแล้วในโครงการ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เพราะเงินนี้พวกคุณประกาศออกมาว่าเป็นเงินบริจาคตามโครงการ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่กลับไม่ได้โอนเงินตามที่ประกาศ เมื่อเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ประชาชนที่โอนมาก็เป็นเจ้าทุกข์ ก็มีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดี นำข้อมูลของตนไปขยายผลได้เลย
กรณีเงินบริจาค เราต้องการความถูกต้อง หากเป็นนักการเมืองมีอำนาจมากกว่าประชาชน วันใดฝ่ายการเมืองมีอำนาจบริหารเงินจำนวนนับล้านๆ บาท ดังนั้นลำพังเงิน 7.2 ล้านบาทถือว่า..จิ๊บจ๊อยมาก ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้เสมอ เพราะพวกคุณเรียกร้องให้ฝ่ายอื่นโปร่งใสตรวจสอบได้ วันนี้พวกคุณได้เงินประชาชนไปจะต้องตรวจสอบได้
ส่วนทิศทางการเมืองของตนนั้น ณ ขณะนี้ตนไม่ได้สังกัดพรรค แต่มีแนวคิดตั้งกลุ่มการเมือง รวมคนที่มีแนวคิดแนวร่วมเหมือนๆ กัน ส่วนการจะนำมาสู่การตั้งพรรคได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลงาน ณ วันนี้ยังบอกไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลา
ตอนนี้มีคนที่มีแนวความคิดเดียวกับตนจะมาสมัครเข้ากลุ่มหลายคน เพียงแต่ตนยังไม่มีระบบรองรับ และประเมินว่ารัฐบาล “ลุงตู่” ยังอยู่ไปได้อีกยาว ฉะนั้นกลุ่มการเมืองของตนก็ยังไม่ต้องรีบประกาศตัว ส่วนจะเป็นกลุ่มหรือเป็นพรรคหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผลงานของกลุ่ม เป็นเรื่องของอนาคต หากเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ก็สามารถพัฒนาไปได้
“ยืนยันว่าผมเป็นนักการเมือง และจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง”