ศรีสะเกษ - นักท่องเที่ยวแห่ชมวิวความสวยงามทางธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธ์จากช่องโอโซน “ผาพญากูปรี” ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมชมอาทิตย์อัสดงยามเย็น 2 แผ่นดินคึกคัก
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่จุดชมวิวผาพญากูปรี ตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านแซรไปร ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ประมาณ 4 กิโลเมตร พระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วย นางชไมมาศ ชาติเมธากุล ประธานบริษัท สุขภัณฑ์คริสตินา (ประเทศไทย) จำกัด ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวศรีสะเกษ และนายกสมาคมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปมาเยี่ยมชมจุดชมวิวผาพญากูปรี
ทั้งนี้ จุดชมวิวผาพญากูปรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ รับสายลมเย็นสบายจากช่องโอโซน อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ
บรรยากาศในช่วงเย็นของวันนี้ ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวพาครอบครัว ญาติพี่น้องเดินทางมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่พัดผ่านมาจากช่องโอโซนเทือกเขาพนมดงรักและชมบรรยากาศยามเย็นช่วงพระอาทิตย์อัสดงของผาพญากูปรีกันอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวทุกคนต่างมีสีหน้าสดชื่นที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายเป็นการเพิ่มพลังความสดชื่นให้กับตัวเอง และต่างพากันบันทึกภาพความสวยงามของผาพญากูปรีไว้เป็นที่ระลึก และชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหลายอำเภอได้ใช้น้ำจากลำห้วยนี้ในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 100 ปีแล้ว
นางชไมมาศ ชาติเมธากุล ประธานบริษัท สุขภัณฑ์คริสตินา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวชมความสวยงามตามธรรมชาติของจุดชมวิวผาพญากูปรี ได้ชมแหล่งที่เป็นต้นน้ำห้วยสำราญ และได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์พัดผ่านมาจากช่องโอโซนเทือกเขาพนมดงรัก ทำให้รู้สึกว่าการที่ร่างกายได้รับอากาศบริสุทธิ์ทำให้ตนมีความสดชื่นมาก นับว่าจุดชมวิวพญากูปรีแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของชนทั้ง 2 ชาติไทย-กัมพูชา ที่จะได้มาท่องเที่ยวชมความสวยงามและสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งมั่นใจว่าในเร็วๆ นี้ คงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงนี้เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งจะทำให้การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง