ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ดีเจสาว โร่พึ่ง ป.ป.ช.ขอนแก่น สอบข้อเท็จจริง หลังถูกอ้างชื่อทำสัญญาซื้อขายทุจริต ในโครงการ 9101 จนต้องถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 6 แสนบาท ด้าน ป.ป.ช.ชี้หากผิดจริงเสนอตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
วันนี้ (25 มิ.ย. 63) ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น น.ส.นิมิต ตราชู หรือดีเจนุ่มนิ่ม ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้ายื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. กรณีถูกแอบอ้างชื่อว่าเป็นบุคคลที่ไปทำสัญญาซื้อขายมูลสัตว์กับสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ ในโครงการ 9101 จนทำให้ น.ส.นิมิตต้องถูกสรรพากรจังหวัดขอนแก่นเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกว่า 6 แสนบาท ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่เคยทำสัญญาซื้อขายมูลสัตว์ จึงมาร้องต่อ ป.ป.ช.ภาค 4 ให้สืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยมีนายประทีป จูฑะศร เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
การร้องเรียนครั้งนี้ น.ส.นิมิตได้แนบเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแอบอ้างชื่อไปทำสัญญาซื้อขายกับสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ โดยต้องไปติดต่อขอคัดสำเนาที่สำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งพบว่ามีเอกสารไม่ครบถ้วนมาจากต้นทาง, หลักฐานสัญญาซื้อขายตามโครงการ 9101 ในบัญชีสินค้าอื่นที่มีเอกสารครบถ้วน, รายการเคลื่อนไหวทางบัญชีธนาคารทั้งหมดในชื่อ น.ส.นิมิต ตราชู, หลักฐานการจ่ายภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.90 ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และสอบสวนหาข้อเท็จจริง
น.ส.นิมิต ตราชู ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนถูกแอบอ้างใช้ชื่อไปทำสัญญาซื้อขายกับสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ. 2560 ตามโครงการ 9101 ตามรอยพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ว่าตนไปค้าขายมูลไก่ให้กับกลุ่มเกษตรกรในหลายอำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์เป็นผู้รับซื้อมูลไก่ จำนวน 11 สัญญาซื้อขาย เพื่อนำไปมูลไก่แจกจ่ายให้เกษตรกร ใช้ทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ มีมูลค่ารวมกว่า 6,173,000 บาท ด้วยยอดเงินดังกล่าวตนต้องชำระภาษีจำนวนรวมกว่า 6 แสนบาท
“ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นบุคคลที่เข้าไปทำสัญญาขายมูลไก่ให้กับสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกหฎมาย และได้นำหลักฐานทั้งหมดมายื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ภาค 4 ให้สืบสวนเอาผิดต่อผู้กระทำผิดทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นการทุริตคอร์รัปชันที่ร้ายแรง และที่สำคัญเป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติ” น.ส.นิมิตกล่าวและว่า
เรื่องนี้ตนเชื่อว่าผู้แอบอ้างนั้นจงใจทุจริตภายใต้โครงการ 9101 ที่น่าตกใจคือสัญญาการซื้อขายมูลไก่นั้น มูลค่าการค้าจริงไม่เกิน 3 แสนบาท แต่มีการสั่งจ่ายเงินเกินความเป็นจริงถึง 7 ล้านบาท ภายใน 3 วัน ขณะเดียวกัน ตนนำหลักฐานชุดเดียวกันนี้ส่งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเพื่อให้เข้าตรวจสอบหน่วยงานของรัฐดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากโครงการ 9101 เป็นโครงการพ่อหลวงของเราที่ทำให้ประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะต่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน
ด้านนายประทีบ จูฑะศร เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 กล่าวภายหลังรับหลักฐานร้องเรียนว่า หลักจากรับเรื่องร้องเรียนแล้ว ทาง ป.ป.ช.จะรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่ามีการกระทำความผิดตามที่ร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ส่วนที่ผู้ร้องชี้แจงว่าได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง จากการถูกแอบอ้างเป็นผู้ประกอบการทำสัญญานั้นก็ให้ทางผู้ร้องติดต่อสำนักงานสรรพากรเพื่ออุทธรณ์หรือยื่นชะลอการจ่ายภาษี ตามกรอบระยะเวลาทางกฎหมายต่อการตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริงคือ 180 วัน และสามารถขยายเวลาได้อีก 2 ปี แต่ในกรณีการร้องเรียนนี้จะเร่งดำเนินการให้ เบื้องต้นต้องพิสูจน์ว่ามีการกระทำความผิดจริงหรือไม่ ถ้าพิสูจน์แล้วว่ามีการกระทำผิดจริง จะเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อทำการชี้มูลความผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป