จันทบุรี - อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยววันที่ 1 ก.ค.นี้ เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน กำหนดจุดคัดกรอง ป้องกันเป็นพื้นที่แพร่เชื้อ
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายพิทักษ์ อินทศร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี เผยว่า ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมขาติและสิ่งแวดล้อม จะได้มีการประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของอุทยานแห่งชาติจังหวัดจันทบุรี ที่ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ และอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชื่นชมความงามทางธรรมชาติ ถ่ายรูปและศึกษาระบบนิเวศของป่า รวมทั้งนั่งรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่จะยังไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ
โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จะจำกัดจำนวนผู้เข้าชมธรรมชาติให้เหลือเพียง 550 คนต่อวัน จากเดิมที่เคยเปิดรับนักท่องเที่ยวมากถึง 1,500 คน
ส่วนน้ำตกตรอกนอง อ.ขลุง จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหลือเพียง 310 คน น้ำตกมะกอก จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 160 คน จากเดิมที่เคยเปิดรับนักท่องเที่ยวมากถึง 500 คนต่อวัน
และน้ำตกคลองนารายณ์ อ.เมือง จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 290 คน จากเดิมที่เคยเปิดรับ จำนวน 500 คนต่อวัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่
"อุทยานฯ ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันพื้นที่ไม่ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติ จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงมาตรการการป้องกันด้วยการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย และจะมีการตรวจสอบการเข้าออก ภายใต้สโลแกน เที่ยวอุทยานวิถีใหม่ สร้างความปลอดภัยใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ ถือที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวนิยมพาบุตรหลานมาลงเล่นน้ำคลายร้อน ซึ่งที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้ปิดบริการมานานกว่า 2 เดือนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่พบว่า ได้มีทั้งการทำความสะอาดบริเวณจุดขายตั๋ว การสร้างจุดเว้นระยะห่างกันของนักท่องเที่ยว รวมทั้งจัดเจลล้างมือให้บริการก่อนเข้าไปภายในอุทยานฯ และยังจัดให้มีห่วงยาง เสื้อชูชีพ รวมทั้งทีมกู้ภัยอุทยานฯ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวแบบ 100% ด้วย