สระบุรี - แทบช็อก!! ป้าเมืองสระบุรีไปค้ำประกันซื้อรถยนต์ให้คนที่ไม่รู้จัก เจ้าของส่งไม่ไหวส่งรถคืนไฟแนซ์ แต่ไม่แจ้งผู้ค้ำประกัน สุดท้ายถูกยึดบ้าน ที่ดิน ช้ำที่สุดถูกแจ้งจับบุกรุกอีก
วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือ จากนางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื่องจากไปคำประกันซื้อรถยนต์ แต่กลับถูกยึดบ้าน ก่อนทนายประมูลซื้อเองเป็นจำนวนเงิน 160,000 บาท แล้วมาขายคืนในราคา 870,000 บาท หนำซ้ำยังถูกข่มขู่แจ้งจับบุกรุก
นางอำไพ กล่าวว่า ขณะนี้จะถูกยึดบ้านแล้ว จากคดีค้ำประกันรถยนต์ให้แก่คนที่ไม่รู้จัก แต่ที่ค้ำให้เขาก็เพราะคนที่เรารู้จักและนับถือมาขอให้ไปค้ำประกัน และเราก็ไม่รู้จักกับคนซื้อรถเลย ซึ่งราคารถนั้นราคาประมาณ 800,000 บาท มารู้อีกทีก็ตอนเกิดเรื่องแล้ว ว่าคนซื้อเขาได้คืนรถไปแล้วโดยที่ไม่ได้บอกเรา หลังส่งรถคืน ไฟแนนซ์ แล้วจะต้องเสียค่าส่วนต่าง
จากนั้นผู้ซื้อก็เงียบหายไป มารู้อีกครั้ง คือบ้านที่นำไปค้ำประกันการซื้อรถได้ถูกขายทอดตลาดโดยกรมบังคับคดีไปแล้ว ต่อมา มีทนายคนหนึ่งประมูลได้ในราคา 160,000 บาท แล้วทนายคนดังกล่าวเอามาเสนอขายคืนในราคา 870,000 บาท ขณะเราทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่มีความรู้อะไร ทางทนายให้เวลาย้ายออกภายใน 1 เดือน ถ้าไม่ย้ายออกไปจะแจ้งจับทุกคนในบ้าน ทำให้เราไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน เพราะบ้านหลังนี้มีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ 10 ชีวิต มีทั้งคนแก่ อายุ 87-77-60 และลูกหลานอายุ 2 ขวบ จึงวอนหาผู้ช่วยเหลือเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งสามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-9537-1959
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนางอำไพ โพธิประสิทธิ์ พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ มีเนื้อที่ทั้งหมด 96 ตารางวา โดยนางอำไพ เมื่อพบกับผู้สื่อข่าวถึงกับดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หวังเป็นที่พึ่งเรียกร้องความเป็นธรรม ได้นำเอกสาร และเปิดไลน์การพูดคุยกับทนายและผู้ซื้อรถ ให้ผู้สื่อข่าวดูประกอบเป็นหลักฐาน
นางอำไพ กล่าวอีกว่า ทนายโทร.มาวันหนึ่ง 23 สาย แต่ป้าไม่อยากรับสายเพราะว่าป้าเป็นโรคหัวใจอยู่ ก็เลยไม่กล้ารับ เพราะว่าโทร.มาแต่ละครั้ง ทนายไม่เคยพูดดีเลย ก็เลยไม่อยากจะรับ เขาโทร.มาขู่ว่าป้าทำอย่างนี้ผมเสียหายนะ ถ้าป้าจะอยู่ต่อป้าก็ต้องเสียค่าเช่าแล้ว เดือนละ 5,000 บาท จากนั้นทุกครั้งที่ทนายโทร.มาป้าก็ไม่รับสายเลย แล้วเปลี่ยนมาเป็นคุยทางไลน์ ข้อความไลน์เขาก็บอกว่าผมสงสารป้าอยู่แต่ตอนนี้ผมไม่สงสารแล้ว ผมจะไม่ลดให้แล้ว
และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทนายก็โทร.มาอีก บอกให้หาเงินสดมา เขาจะเอา 300,000 บาท เขาลดให้ 300,000 บาท แต่ต้องเป็นเงินสด ถ้านานก็ไม่ได้ จากยอดเงินที่เขาลดให้เหลือ 600,000 บาท ส่วนในเรื่องที่ค้ำประกันรถแล้วต้องสูญเสียบ้าน ป้าก็มาคิดดูป้าไม่มีความผิดอะไรป้าต้องมาเสียบ้านหลังนี้ไป แต่ถ้าเป็นหนี้ที่ป้าก่อเองป้าจะไม่เสียใจเลย มันไม่ยุติธรรมกับป้าเลย
ส่วนคนซื้อรถ ป้าขอให้เขามาช่วยป้าบ้าง แต่เขาก็บอกกับป้าว่าเขาจะช่วย แต่ที่ผ่านมา เขาก็ไม่เคยช่วยเลย เพียงแค่บอกว่าเขายังหาเงินไม่ได้ ป้าก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ทุกวิถีทาง วันนี้ป้าก็ไปหากู้เงินโดยการจำนำรถ แต่รถยังส่งไม่หมดและรายได้ก็ไม่มี เพราะโรงงานเขาปิดจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ป้าขาดรายได้ จึงอยากขอให้ผู้ที่รู้เรื่องของกฎหมายหรือมีหนทางอย่างไรที่จะช่วยได้ ป้าไม่อยากสูญเสียบ้านไป