จากกรณีผู้สูงอายุและชาวบ้านใน จ.กาฬสินธุ์ออกมาเตือนภัย หลังมีชายอ้างตัวเป็นทหาร ขับรถหรูตระเวนขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศล อ้าง “เจ้านายสั่งมา” ขอเงินดื้อๆ รายละ 1,000-2,000 บาท เพื่อนำเงินช่วยเหลือทหารพิการ เรียกร้องเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมดำเนินคดี กลัวว่าจะไปแอบอ้างหลอกลวงชาวบ้านรายอื่นต่อ
ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระท่อมนาริมถนนสายบ้านโคกใหญ่-โปร่งแค ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.นากุง พ.ต.ต.นวรัตน์ โคตรแสนเมือง สวป.สภ.นากุง มอบหมายให้ ร.ต.ต.ฤๅยศ รัตน์ตะบุดตา รอง สว.(ป) และ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ภูสีเขียว รอง สว.สส.สภ.นากุง พร้อมด้วยสายตรวจรถยนต์ เข้าสอบถาม นายประยูร ภูวนผา อายุ 76 ปี ชาวบ้านแดง หมู่ 3 เจ้าของกระท่อมนา และนายบัณฑิต ภูบุตรตะ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 391 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน ซึ่งทั้งสองระบุว่าถูกชายอ้างตัวเป็นทหารและอ้างนายสั่งมา เข้ามาขอดูใบอนุญาตเลื่อยยนต์และหวังเรียกเก็บภาษี ก่อนติดต่อขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลให้
ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ภูสีเขียว รอง สว.สส.สภ.นากุง กล่าวว่า ตามที่นายประยูร ชาวบ้านแดง และนายบัณฑิต ชาวบ้านตูม ต.บัวบาน ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนถูกชายอ้างตัวเป็นทหารและมีพฤติการณ์ดังกล่าว สร้างความตระหนกแก่ชาวบ้าน พร้อมทั้งยังฝากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคคลดังกล่าว และเตือนภัยประชาชนให้ระมัดระวังและอย่าหลงเชื่อนั้น ทางผู้บังคับบัญชามีความเป็นห่วงกลัวชาวบ้านจะถูกหลอกลวงและเสียทรัพย์ จึงกำชับให้จัดชุดสายตรวจลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ร.ต.อ.ชัยณรงค์กล่าวอีกว่า จากการสอบถามทราบว่าชายที่อ้างตัวเป็นทหารดังกล่าวได้มาขอตรวจดูใบอนุญาตเลื่อยยนต์และประสงค์จะขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศล ราคาบัตรละ 1,000 บาท และราคา 2,000 บาทให้จริง แต่ยังไม่มีชาวบ้านรายใดซื้อบัตร และได้รับความเสียหายแต่ประการใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เตือนให้ระมัดระวังคนแปลกหน้า หากพบบุคคลใดมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทันที หรือในกรณีชายอ้างตัวเป็นทหารมาขอดูใบอนุญาตเลื่อยยนต์หรือขายบัตรให้ หากมีใครได้รับความเสียหาย สามารถไปแจ้งความที่ สภ.นากุงได้ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ด้านนายประยูร ภูวนผา อายุ 76 ปี ชาวบ้านแดง หมู่ 3 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบถามหาเบาะแสของคนร้าย ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก และอยากบอกเตือนชาวบ้านทุกคนให้ระวังคนแปลกหน้าด้วย เพราะอาจจะเข้ามาหาเราโดยใช้อุบายหลอกลวงหวังเอาทรัพย์สินเราได้
“ต่อไปนี้พวกเราจะเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ผม และนายบัณฑิตยังจะไม่ไปแจ้งความเพราะยังไม่เสียทรัพย์ แต่หากมีคนแปลกหน้ามีพฤติการณ์ดังกล่าวมาหาอีกก็จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทันที” นายประยูรบอก