ศูนย์ข่าวศรีราชา - ใกล้รู้ตัวไอ้โม่งเรียกหักหัวคิวโรงแรมเมืองพัทยา 40% แลกเป็น State Quarantine ผบช.ภ.2 แย้ม "พ" มีจริงไม่ใช่คนชลบุรี ไม่เกี่ยวรัฐ คนมีสี ให้ตำรวจเร่งตามตัวแล้วพร้อมตั้ง 2 ข้อหาพยายามฉ้อโกง หมิ่นประมาทหน่วยงานรัฐ
จากกรณีที่นักธุรกิจเมืองพัทยา ได้รวมตัวกันออกมาแฉว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างตนเองว่าได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการสรรหา State Quarantine หรือพื้นที่กักกันแห่งรัฐเพื่อรองรับกลุ่มคนไทยจากต่างแดนที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ให้ได้มีพื้นที่กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามมาตรฐานสาธารณสุข
แต่กลับมีการเรียกหักค่าหัวคิว 40% จากโรงแรมในเมืองพัทยา ที่อยากผันตัวเป็นโรงพยาบาลสนาม หวังกินส่วนต่างในอัตรา 1,000 บาทต่อหัวต่อวัน ที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
กระทั่งโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ออกมายอมรับต่อสื่อมวลชนว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าขบวนการดังกล่าวมีอยู่จริงแต่ไม่ใช่ข้าราชทหาร พร้อมเผยชื่ออักษรย่อ "พ" ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย และได้มอบรายชื่อผู้ร่วมขบวนการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เปิดแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีดังกล่าวที่ห้องประชุม สภ.เมืองชลบุรี ว่าในเบื้องต้นรู้ตัวผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวแล้วโดยเป็นบุคคลที่มีชื่อจริงขึ้นต้นด้วย "พ" และมีชื่อเล่นว่า โต้ง แต่ไม่ใช่คนใน จ.ชลบุรี ที่สำคัญเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐ หรือเป็นคนมีสีแต่อย่างใด
และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง
เบื้องต้น พร้อมตั้งข้อกล่าวหา พยายามฉ้อโกง และข้อหาหมิ่นประมาทจากการอ้างหน่วยงานรัฐเพื่อทำการหลอกลวง ส่วนจะมีการทำเป็นขบวนการหรือไม่นั้นจะต้องรอผลของการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
สสจ.ชลบุรี แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เอาผิดขบวนการงาบหัวคิว
ขณะที่ นายเสรี เจตสุคนธร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีที่ถูกแอบอ้าง เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้กล่าวอ้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
"เพราะในส่วนการพิจารณาโรงแรม State Quarantine นั้นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางจะเป็นผู้พิจารณาเองไม่เกี่ยวกับหน่วยงานในพื้นที่ ส่วนในเรื่องของความเสียหายว่าจะมีโรงแรมในพัทยาที่ได้รับความเสียหายมากเพียงใด ขณะนี้ยังไม่สามารถที่ตอบได้เพราะยังไม่มีการแจ้งข้อมูลเข้ามา แต่ในฐานะของหน่วยงานที่ได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง จึงต้องเข้าแจ้งความไว้ก่อน" รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าว