กาญจนบุรี - พฐ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ตลาดสดกลางเมืองสังขละบุรี พบร้านค้าได้รับความเดือดร้อน 70 ราย มูลค่าความเสียหาย 30 ล้านบาท
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารตลาดสดเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เป็นเหตุทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (27 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี นำโดย พ.ต.ท.หญิง วิลาสินี วานิชชัง นวท.(สบ 3) พร้อมทีมงานพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ ร.ต.ท.จิรพงศ์ เกิดเรณู รอง สว.(สอบสวน) สภ.สังขละบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี
ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ พร้อมประสานขอแผนผังร้านค้าและรายชื่อเจ้าของร้านในอาคารตลาดที่ถูกไฟไหม้จากเทศบาลตำบลวังกะ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ขณะเดียวกัน ได้นำเชือกมากั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปไปบริเวณที่เกิดเหตุ เพราะเกรงว่าจะเหยียบย่ำทำลายหลักฐานได้
เบื้องต้น ได้สอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเพลิงไหม้ โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เปลวไฟเริ่มลุกลามจากบริเวณแผงไฟที่ติดอยู่บนต้นเสาบริเวณทางเดินกลางตลาด ซึ่งจุดดังกล่าวพบว่าเป็นจุดที่มีไฟไหม้รุนแรงที่สุด และมีมูลค่าเสียหายมากกว่า 1 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อทำงานในรูปของคณะกรรมการในการตรวจพิสูจน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นัดหมายลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตลาดดังกล่าวสร้างจากไม้ เป็นอาคารชั้นเดียว ลักษณะรูปทรงศาลา กว้างประมาณ 20 เมตร ยาว 50 เมตร สูง 10 เมตร เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างมานานกว่า 30 ปี เป็นที่จำหน่ายของชำ ของแห้ง และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งเสื้อผ้า
เพลิงไหม้ในครั้งนี้ส่งผลทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนประมาณ 70 ราย ส่วนมูลค่าความเสียหายรวมกันทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี กล่าวว่า อำเภอสังขละบุรี จะเร่งหาพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ โดยจะประสานไปยัง พ.ต.อ.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ ผกก.สภ.สังขละบุรี และทางเทศบาลตำบลวังกะ เพื่อขอใช้พื้นที่ฟุตบาธ เพื่อให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนใช้เป็นสถานที่ตั้งแผงขายของเป็นการชั่วคราว ในเบื้องต้น จะรายงานนายจีระเกียรติ จีระสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทราบ เพื่อเร่งหาทางเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไป
