กาญจนบุรี - เริ่มแล้ว!! ‘ตู้ปันสุข’ ตู้กับข้าวแห่งน้ำใจ ต้านภัยโควิด-19 ที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
วันนี้ (11 พ.ค.) ดร.วรสุดา สุขารมณ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ พ.ต.นำพล คงพันธ์ ประธานรุ่นวิสุทธรังษี 21-23 นายวสันต์ ภูษิตกาญจนา เจ้าของร้านดาวกีฬา และกลุ่มเพื่อนๆ ได้นำ ‘ตู้ปันสุข’ ตู้กับข้าวแห่งน้ำใจ ต้านภัยโควิด-19 มาตั้งเป็นตู้แรกของกลุ่ม โดยตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดโต้รุ่ง ช่วงระหว่างโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ และซอยโรงรับจำนำ บริเวณหน้าร้านดาวกีฬา
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่แสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทยที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนเดือดร้อนอีกวิธีหนึ่ง
ดร.วรสุดา สุขารมณ์ เปิดเผยว่า แนวคิดที่นำตู้กับข้าวเปิดโอกาสให้ทุกคนนำของมาใส่ มากหรือน้อยก็ได้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยผู้ประสบความเดือดร้อนสามารถนำของในตู้ไปใช้ได้ เพื่อให้คนในสังคมมีส่วนร่วมในการดูแล ให้กำลังใจกันตามกำลัง
ทั้งนี้ ด้วยความเชื่อว่า ‘คนไทยไม่เคยทิ้งกัน’ จึงเริ่มคุยกันในกลุ่มไลน์เล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ที่มีกัน 4-5 คน ร่วมด้วยช่วยกันจัดหาวัสดุต่างๆ ที่จำเป็น หาทำเลที่ตั้งตู้ที่เหมาะสม และมีทีมงานช่วยดูแล ซึ่งทุกท่านก็ช่วยกันประสานงานด้วยความรวดเร็ว
ซึ่งเราเริ่มจัดหาตู้ และช่วยกันจัดทุกอย่าง พร้อมทั้งป้ายแล้วเสร็จภายในวันเดียว และเราก็ได้นัดกันในวันนี้เพื่อนำตู้ไปติดตั้งในพื้นที่ที่มีคนผ่านไปมา และมีคนช่วยดูแลให้แก่เราด้วย
โดยตู้ปันสุข ตู้แรกของพวกเรา ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดโต้รุ่ง ช่วงระหว่างโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ และซอยโรงรับจำนำ ทั้งนี้ ท่านที่มีความประสงค์จะเป็นผู้ให้สามารถนำของไปเติมได้ตลอดเวลา หรือ ท่านที่ขาดแคลนสามารถไปเลือกดูสิ่งของในตู้ได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ต้องขอขอบคุณ พล.ต.นำพล คงพันธ์ ประธานรุ่นวิสุทธรังษี 21-23 และคุณวสันต์ ภูษิตกาญจนา เจ้าของร้านดาวกีฬา ที่สนับสนุนจัดหาตู้มาให้ พร้อมทั้งยังช่วยบริจาคสิ่งของเพิ่มเติมไว้ในตู้ รวมถึงช่วยดูแลเติมของในตู้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าโครงการเล็กๆ นี้ จะทำให้สังคมดูแลกัน เป็นกำลังใจให้กันด้วยหัวใจ จากการให้ที่ไม่สิ้นสุด และไม่หวังสิ่งตอบแทน เพียงเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ตกทุกข์จากสถานการณ์โควิด-19 พวกเราเชื่อมั่นตลอดมาว่า ‘คนเมืองกาญจน์ ไม่เคยทิ้งกัน’
นอกจากนี้ ตนพร้อมทีมงานยังได้ออกระดมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด รวมทั้งที่วัด เนื่องจากมองว่าวัดเป็นที่รวมของประชาชน จึงต้องเพิ่มความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่เดินทางไปทำบุญมากขึ้น โดยน้ำยาที่ใช้ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ที่จะทำร้ายสิ่งมีชีวิต และสามารถอยู่ได้นานถึง 28 วัน ทั้งนี้แล้วแต่สภาพอากาศ