xs
xsm
sm
md
lg

อดีต ส.จ.สระบุรีหอบหลักฐานส่งตำรวจกรณี อบจ.จัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 แพงเกินจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี - อดีต ส จ.สระบุรี หอบหลักฐานส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อกรณี การจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 แพงเกินจริง ด้านปลัด อบจ.สระบุรี โต้ทำตามระเบียบราชการทุกอย่าง พร้อมเผยราคาของปัจจุบันกับช่วงวิกฤต ราคาย่อมต่างกัน

วันนี้ (29 เม.ย.) นางปวรีวรรณ นันทปัญญา อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนายศุภอรรถ จันทรสกุลต์ ทนายความได้นำเอกสารหลักฐานการจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ขององค์การบริหารจังหวัดสระบุรี (อบจ.) ที่จัดซื้อแพงเกินจริง เดินทางมาที่ สภ.เมือง สระบุรี โดยมี พ.ต.อ.พิศณุ วิทยาภรณ์ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี รับมอบและรับฟังรายละเอียดอยู่ภายในห้อง ใช้เวลา 30 นาที จึงได้ออกจากห้อง เพื่อส่งมอบเอกสารหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวน พร้อมลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน

นางปวรีวรรณ กล่าวว่า ตนเองยังไม่ทราบว่าขั้นตอนการทุจริตของ อบจ.สระบุรีอยู่ในขั้นตอนไหน ขึ้นอยู่กับคณะทำงานทั้งหลาย ไม่ว่าจะ ป.ป.ช. หรือ สตง. ดูจากขั้นตอนเจาะลึกตรงนี้ดีกว่า ว่าจะมีแนวโน้มว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งทั้งนี้เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต

ทางด้าน นายศุภอรรถ จันทรสกุลต์ ทนายความ เผยว่า การมาวันนี้พร้อมกับนางปวรีวรรณ ก็เพื่อมายื่นเอกสารหลักฐานการจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ของ อบจ.สระบุรี ที่จัดซื้อแพงเกินจริง ให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน ในเรื่องของการจัดซื้อนี้เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ตรวจสอบ อบจ.สระบุรี เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อหรือกล่าวโทษ กล่าวหาใคร เพราะว่ายังไม่รู้ว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงยืนคำร้องไปแบบกว้างๆ แต่หากรวบรวมได้ข้อมูลหลักฐานชี้ชัดก็จะส่งเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช.

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายเรืองศักดิ์ วรหาญ ปลัด อบจ.สระบุรี รักษาการนายกองค์บริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายเรืองศักดิ์ เผยว่า อบจ.สระบุรี เห็นปัญหาของการป้องกันโรค โดยเฉพาะ อสม.ร้องขอมาจาก อบจ. ว่า อุปกรณ์ป้องกันโรคหรือป้องกันตัวเองนั้นขาดแคลน เลยร้องขอมาให้ อบจ.ดำเนินการช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 โดยเขาขอมาทั้งสิ้นทุกหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 5 ชุด ซึ่งในจังหวัดสระบุรีมี 1,089 หมู่บ้าน แต่ทาง อบจ.ได้ประชุมคณะการกรรมจัดหา เพื่อพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชนชาวสระบุรี ซึ่งพิจารณาแล้วว่าถ้า 5 ชุด มันจะเยอะไป เราก็เลยให้เพียงแค่หมู่ละ 1 ชุด ซึ่งก็ได้ 7 รายการ ตามที่เป็นข่าว

ทาง อบจ.ได้ดำเนินการจัดทำเองโดยกองการศึกษา ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณมากมายเลย มีแต่ค่าวัสดุ โดยอาศัยแรงงานแรงใจของพี่น้องชาว อบจ.เพื่อเห็นแก่ความสะดวกส่วนรวม เลยได้ดำเนินการ 15,000 ใบ ตกใบละไม่มีกี่บาท หลังจากที่เราดำเนินการช่วงนั้นก็ทราบว่ามีเหตุการณ์วิกฤตมีโรคระบาดเกิดขึ้นทุกพื้นที่ในประเทศไทย มีการดำเนินการป้องกันโรคพร้อมเพรียงกันอย่างมาก ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย การหาซื้ออุปกรณ์นั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก

โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย หรือเจลแอลกอฮอล์ จะเห็นว่าราคาถีบตัวขึ้น เดิมหน้ากากอนามัยราคา 2.50 บาท ในช่วงนั้น ราคาอย่างต่ำก็ 15 บาท กล่องละประมาณ 800 บาท ยังหาซื้อไม่ได้ เพราะฉะนั้นบางเรื่องในช่วงขณะใดขณะหนึ่งเราจะเทียบกันไม่ได้กับในขณะที่สถานการณ์คลี่คลาย ราคาก็ลดลง ถ้าจะเอาราคาปัจจุบันมาเทียบกับราคาช่วงที่เกิดวิกฤตมันไม่ได้ เจลแอลกอฮอล์ที่เราซื้อมาในราคา 1,250 ตามที่เป็นข่าว 5 ลิตร ไม่ใช่ 1 ลิตร ซึ่ง 1 ลิตร ราคาประมาณ 250 บาท ถ้าถามว่าแอลกอฮอล์ 1 ขวด ขนาด 60 มิลิลิตร ราคาเกือบ 50-60 บาทแล้ว แต่ที่ทาง อบจ.ซื้อ 1 ลิตร แค่ 250 บาท ข้อเท็จจริงคือ ซื้อราคาตามท้องตลาดในขณะนั้น

ส่วนข้อกล่าวหาที่ 2 คือ น้ำยาฆ่าเชื้อ ที่ว่าแพง 3,500 บาท เป็นแกลลอน แกลลอนละ 250 ลิตร ก็ตก 1 ลิตร 175 บาท น้ำยาฆ่าเชื้อลิตรละ 175 บาท คุณว่าแพงไหม และที่เขาบอกว่าเอากระดาษ 1 แผ่นมาเทียบกับราคาของเรา ผมไม่ทราบว่าเขากระดาษนั้นมาจากไหน 1,500 บาท แล้วเป็นราคาจริงหรือเปล่า แล้วบริษัทไหนที่ขายให้เขาในราคา 1,500 บาท ก็ไม่มีใครถามว่ามาจากไหน และราคา 1,500 บาท ซื้อได้จริงไหม และเขาเคยซื้อหรือเปล่าเพื่อมาเทียบกับของที่ซื้อในภาวะเร่งด่วนกับภาวะปกติ ซึ่งแบบนี้มันเทียบกันได้ไหม ทาง อบจ.ขอความเป็นธรรมว่าการเทียบราคากัน เพื่อให้เห็นความแตกต่างของราคาโดยที่ไม่มีเหตุผลเลย

สำหรับเหตุร้องเรียนนี้ ตนเองคิดว่าทางเราได้ทำตามระเบียบอย่างเคร่งคัดและถูกระเบียบทุกอย่างตามระเบียบราชการ










กำลังโหลดความคิดเห็น