ลำพูน - ผู้ว่าฯ เผยผลสอบ อบจ.ลำพูนจัดงบซื้อแคร์เซตแจกผู้สูงอายุสู้โควิดกว่า 16 ล้าน มิชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายเต็มจำนวน พร้อมเร่งชงสอบวินัย/ละเมิด เรียกเงินชดใช้คืนทุกบาททุกสตางค์ภายในเวลาไม่เกิน 60-90 วัน
วันนี้ (29 เม.ย.) นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณี อบจ.ลำพูนจัดงบซื้อชุดแคร์เซตแจกผู้สูงอายุระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 27,700 ถุง ในราคาถุงละ 590 บาท ว่า จากการที่จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นไปนั้น ล่าสุดเมื่อวานตอนเย็น (28 เม.ย.) คณะกรรมการฯ ได้รายงานข้อสรุปทั้งหมดให้ตนแล้ว
โดยได้ข้อสรุปว่า การจัดซื้อแคร์เซตของ อบจ.ลำพูนครั้งนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบการช่วยเหลือสาธารณชนด้านสาธารณภัย และเมื่อการจัดซื้อไม่ชอบ-ไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็เป็นผลทำให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.ลำพูนเต็มจำนวน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 16 ล้านบาทเศษ
แต่ในการตรวจสอบดำเนินการนั้น ตามระเบียบต้องมีการตั้งกรรมการขึ้นมา 3 ชุด คือ สอบข้อเท็จจริง สอบวินัย และการสอบละเมิด เรียกคืนเงินจากผู้ใดเป็นจำนวนเท่าไหร่ ทั้งข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น เมื่อได้ข้อสรุปของการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วว่ากรณีนี้มีมูล ก็จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดต่อไปที่จะสอบวินัยและการละเมิด เพื่อเรียกให้มีการชดเชยภายใน 60 วัน ไม่เกิน 90 วัน พร้อมกับการดำเนินการทางวินัยและอาญาควบคู่กันไปด้วย โดยตนจะรวบรวมการดำเนินการสอบสวนตั้งแต่ชั้นแรก ส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางอาญาด้วย
ส่วนเรื่องการสั่งพักการปฏิบัติงานของ อบจ.นั้น เนื่องจากขณะนี้กฎกระทรวงที่ออกตาม พ.ร.บ.อบจ.ฉบับล่าสุดยังไม่มีการประกาศใช้ ดังนั้นการสั่งพักได้หรือไม่ได้ หรือสั่งพักหรือไม่ ต้องหารือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นก่อน
นายพงษ์รัตน์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้คณะกรรมการชุดที่ 2 และ 3 ซึ่งจะเป็นการสอบวินัยและการละเมิดจะได้เร่งรวบรวมข้อมูลจากคณะกรรมการชุดแรกที่สอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีมูล และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้ชี้แจง ซึ่งทั้ง 2 ชุดนี้จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน ขยายเวลาได้อีก 30 วัน รวมแล้วไม่เกิน 90 วัน
อย่างไรก็ตาม ผลการพิจารณาเป็นอย่างไร ผู้ถูกร้องก็มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ได้ และถ้าไม่พอใจผลการอุทธรณ์ ก็สามารถใช้สิทธิทางศาลได้อีก
ผู้ว่าฯ ลำพูนย้ำอีกว่า การสอบสวนทั้งหมดจะเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.และ สตง.ที่เข้ามาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนั้น ก็ทำได้ตามอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว
ด้านนายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน กล่าวเพียงสั้นๆว่าหากพูดไปก็จะเป็นการตอบโต้คณะกรรมการสอบฯ-ผู้ว่าฯ อย่างไรก็ตามทาง อบจ.ก็ต้องชี้แจงข้อกล่าวหาตามขั้นตอนซึ่งหากให้ชดใช้จริง ก็เป็นปัญหาสำหรับตนมากแน่นอน ก่อนหน้านี้นายก อบจ.จ.ลำพูน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสิ่งของที่แจกให้ชาวบ้านนั้นไม่ใช่ถุงยังชีพ แต่เป็นถุง Care Set หรือชุดดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ใช้ระหว่างเก็บตัวอยู่ที่บ้านซึ่งดำเนินการจากมติที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรค จังหวัดลำพูน เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ตามสถิติการติดเชื้อผู้สูงอายุก็ถือว่าเป็นกลุ่มผู้เสี่ยงจึงได้ดำเนินการตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูนเสนอมาตนในฐานะกำกับดูแลงบประมาณของ อบจ.ก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้างมีการตรวจสอบราคากลาง รวมถึงขั้นตอนต่างๆ สามารถชี้แจงได้