นครปฐม - ผู้ว่าฯ นครปฐม ออกประกาศ ห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยเข้าพื้นที่จุดต่างๆ ของโรงพยาบาล โดยเน้นการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อ 2 รายในพื้นที่
ประกาศจังหวัดนครปฐม ฉบับที่ 14/2563 เรื่องกำหนดพื้นที่ห้ามบุคคลภายนอกที่มิได้มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเข้าในพื้นที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563
เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและโรงพยาบาลนครปฐมเป็นพื้นที่ในการดูแลรักษาและรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (2) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อ 1 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครปฐมตามมติที่ประชุมครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2563 จึงออกประกาศกำหนดพื้นที่ห้ามบุคคลภายนอกที่มิได้มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเข้าในพื้นที่โรงพยาบาลนครปฐม ดังต่อไปนี้ 1.อาคารหลวงพ่อแช่ม 2.หอผู้ป่วย Cohort 1 และ Cohort 2 และพื้นที่ทางเดินโดยรอบอาคาร 3.ห้องผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 4.เส้นทางรับส่งผู้ป่วยระหว่างหอผู้ป่วยต่างๆ และจุดบริการที่จำเป็นในการให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 5.ห้องผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ตึกทวารวดี ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2563 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครปฐม