สระบุรี เรือนจำสระบุรี ประสานวัดข้างเรือนจำ ฝากผู้พ้นโทษนอนวัด เพราะติดเคอร์ฟิวกลับภูมิลำเนาไม่ได้ ด้านผู้พ้นโทษเผยแนวทางที่ดีหากไปพักที่อื่นคงไม่ปลอดภัย
นางสุจิตรา เหลืองวัฒนนันท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีการปล่อยผู้ต้องขังที่พ้นโทษแทบทุกวัน บางวันก็ปล่อย 3-6 คน บางคนก็อยู่ในจังหวัดสระบุรี บางคนก็อยู่ต่างจังหวัด จึงไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ เนื่องจากติด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ผู้พ้นโทษไม่สามารถที่จะเดินทางกลับได้ โดยเมื่อวานนี้ได้มีการปล่อยตัวนักโทษ จำนวน 5 ราย ซึ่งเวลาปล่อยตัว คือเวลา 18.30 น. สามารถกลับเองได้ เพราะอยู่ในพื้นที่และมีญาติมารับ แต่ยังเหลืออีก 1 คน คือ นายสมิตร หรือมิตร ดอกจันทร์ บ้านอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เรือนจำสระบุรีจึงได้ประสานงานขอความอนุเคราะห์จากวัดทองพุ่มพวง ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนจำไม่มากนัก ขออนุญาตให้ผู้พ้นโทษได้นอนค้างที่วัด เป็นเวลา 1 คืน เนื่องจากกลับภูมิลำเนาไม่ได้ ซึ่งวัดทองพุ่มพวงจึงได้อนุญาต ไม่ขัดข้องที่จะช่วยแผ่เมตตาให้ผู้ที่พ้นโทษออกจากเรือนจำไม่มีที่นอน จึงได้จัดห้องให้ผู้พ้นโทษนอนอย่างสบาย โดยเรือนจำได้มอบเครื่องใช้ส่วนตัวและค่าพาหนะเพื่อกลับภูมิลำเนาในวันนี้
ทางด้าน พระยงยุทธ อนารโย เลขาเจ้าคณะ ต.ดาวเรือง ซึ่งมาประจำอยู่ที่วัดทองพุ่มพวง จ.สระบุรี เผยว่า เรือนจำจังหวัดสระบุรี ได้ทำเรื่องขอความอนุเคราะห์มายังวัดทองพุ่มพวง ให้ผู้ที่พ้นโทษแล้วจะกลับบ้าน มาอาศัยนอน 1 คืน เพราะติดเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และ พ.ร.ก.ฉุนเฉิน เวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. และเช้าวันนี้ผู้พ้นโทษจะได้กลับบ้านได้ โดยที่ไม่มีความผิดในการฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะผู้พ้นโทษบางคนจะอยู่ต่างจังหวัด
โดยที่ผ่านมา เรือนจำสระบุรี ได้ทำการฝากผู้พ้นโทษมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งละ 1 คน ซึ่งในช่วงเช้าผู้พ้นโทษจะช่วยทำความสะอาด และกินข้าว ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อความปลอดภัยของผู้พ้นโทษ ทางวัดยินดีและไม่ระแวง เพราะผู้พ้นโทษที่เคยนอนมาแล้ว ไม่เคยสร้างปัญหาให้แก่วัด ผู้ที่พ้นโทษถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ทางวัดยินดีให้ความช่วยเหลือ
ด้าน นายสมิตร ดอกจันทร์ ผู้พ้นโทษ กล่าวว่า ตนเองโดนจับในข้อหาลักทรัพย์ ติดอยู่ในเรือนจำประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ทางเรือนจำได้ปล่อยตัวเป็นผู้พ้นโทษ เวลา 18.30 น. โดยเรือนจำได้ทำหนังสือถึงทางวัดขอความอนุเคราะห์ เนื่องจากผู้พ้นโทษมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งไม่สามารถที่จะเดินทางกลับได้เพราะติด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงให้มาพักอาศัยที่วัดดังกล่าว 1 คืน ถึงช่วงเช้าแล้วค่อยเดินทางกลับบ้านได้ ตนเองเห็นด้วยกับนโยบายของเรือนจำที่ทำแบบนี้ เพราะหากไปที่อื่นคงไม่ปลอดภัย