xs
xsm
sm
md
lg

ปลากระชังน็อกน้ำตายเป็นเบือ คาดสภาพอากาศร้อนทำให้ปรับสภาพไม่ทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ่างทอง - ปลากระชังน็อกน้ำตายจำนวนมาก เจ้าของนำมาขายในราคาถูก ครวญหลังกระทบโควิด-19 ทำให้ราคาปลาทับทิมถูกลง ไร้คนซื้อ ซ้ำหนักลอยหัวขึ้นมาตายทุกวัน คาดสภาพอากาศร้อนทำให้ปรับสภาพไม่ทัน

วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกระชังเลี้ยงปลาทับทิม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 3 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมือง จังหวัดอ่างททอง พบว่า ปลาทับทิมที่เลี้ยงอยู่ในกระชังกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีปลาทับทิมตัวขนาดใหญ่รอการขาย เกิดน็อกน้ำตายจำนวนมาก โดยลอยหัวขึ้นมามีสภาพใกล้ตาย โดยทางเจ้าของผู้เลี้ยงปลากระชัง ต้องเร่งนำคนมาคอยตักปลาทับทิมที่ลอยหัวขึ้นมาเพื่อนำไปขายในราคาถูก เป็นการถอนทุนคืนได้บาง ดีกว่าปล่อยให้ตายคากระชังเน่าเสียขายไม่ได้ ต้องนำไปทำปลาร้าหรือทำการฝัง

นายประสงค์ ผดุงญาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลตลาดกรวด เจ้าของกระชังปลา กล่าวว่า ได้เลี้ยงปลากระชังอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาร่วมกับญาติพี่น้องจำนวนกว่า 30 กระชัง ลงทุนค่าอาหารการดูแลไปแล้วกว่าล้านบาท พอปลาเริ่มจับขายได้ก็มากระทบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาปลาถูกลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนต้องยอมขาดทุน เพราะในเวลานี้ประสบปัญหาทั้งโรคระบาด ทั้งภัยแล้ง ผู้รับซื้อน้อยลงไป และในช่วงนี้อากาศร้อนมาก ต้องลงทุนในการทำหลังคาพรางแสงช่วยลดความร้อนและเพิ่มออกซิเจนในน้ำ แต่ยังได้รับผลกระทบมีปลาตายอย่างต่อเนื่อง

โดย 4-5 วันที่ผ่านมา ปลากระชังที่เลี้ยงที่เป็นปลาขนาดใหญ่รอการจับขายเกิดน็อกน้ำตายเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 กิโลกรัมแล้ว เบื้องต้น ต้องคอยเร่งตักปลาตัวที่ลอยหัวขึ้นมาแล้วนำไปน็อกไว้ในถังน้ำแข็งเพื่อทำการขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท เป็นการถอนทุนขึ้นมาได้บ้าง ดีกว่าปล่อยให้ปลาเน่าตายขายไม่ได้ต้องทำปลาร้าหรือนำไปฝังทิ้ง

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดอ่างทองได้เข้ามาตรวจสอบสภาพน้ำแล้วเป็นปกติ คาดว่าเป็นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทัน เกิดการน็อกและลอยหัวขึ้นมาตาย ซึ่งเป็นความเสียหายที่ผู้เลี้ยงปลากระชังต้องแบกรับสภาพการขาดทุนต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น