เชียงราย - สงกรานต์เชียงรายกลางวิกฤตโควิดระบาดเงียบเหงาสุดๆ วัดดังร้างผู้คน แต่ข่าวดีมีมาอีกแล้ว..สสจ.เผยผู้ป่วยโควิดรายสุดท้ายที่ยังอยู่ รพ.ไม่มีเชื้อ-พรุ่งนี้ (14 เม.ย.) ครบกำหนดเฝ้าระวังตามมาตรฐาน WHO
วันนี้ (13 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์เชียงราย กลางวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้วัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงต่างๆ ที่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เงียบเหงาอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ได้ประกาศปิดวัดชั่วคราวมาตั้งแต่ 22 มี.ค. จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งวัดร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย หรือวัดสีน้ำเงิน และวัดอื่นๆ ก็อยู่สภาพไม่ต่างกัน มีเพียงพระสงฆ์ สามเณร เจ้าหน้าที่ที่ทำงานภายในวัดเท่านั้น
ขณะที่พระรัตนมุนี เจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้มีประกาศแจ้งคณะสงฆ์ให้งดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและให้งดกิจกรรมการบรรพชาอุปสมบทสามเณรภาคฤดูร้อน งดกิจกรรมการปฏิบัติธรรมและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่จะทำให้มีประชาชนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น เข้าค่ายคุณธรรม งานวัด งานบุญประจำปี งานปอยหลวง งานผูกสีมา และประเพณีต่างๆ รวมทั้งงดกิจกรรมวันสงกรานต์ ทั้งการสงน้ำพระ รดน้ำดำหัว ก่อเจดีย์ทราย หรืออื่นๆ ฯลฯ
ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ยังคงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวยข้องได้เข้มงวดในมาตรการตามคำสั่ง จ.เชียงราย ในการห้ามจำหน่ายสุราตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย.นี้ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบป้องกันการจัดงานสงกรานต์ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงตามพื้นที่ต่างๆ
ขณะที่นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (14 เม.ย.) จะเป็นวันที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายที่ 9 ซึ่งเป็นรายสุดท้ายที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ได้รับการรักษาจนกลับสู่สภาพปกติครบ 14 วันตามมาตรการขององค์การอนามัยโลกแล้ว และเมื่อผู้หายป่วยกลับไปขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าทางการแพทย์ได้ดูแลรักษาสุขภาพจนหายเป็นปกติตามมาตรฐานทางการแพทย์
“คนไข้รายนี้มีอาการเพียงเล็กน้อย และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังจากตรวจทางห้องปฏิบัติการถึง 2 ครั้ง ผลออกมาไม่มีเชื้ออยู่ในตัวแล้ว มั่นใจได้ว่าจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ส่งผลกระทบต่อคนและสภาพแวดล้อมในพื้นที่อย่างแน่นอน และยืนยันได้ว่าโรคนี้เป็นโรคที่รักษาหายได้”
