ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชระงับเปิดหมู่บ้านท่าอ่าง อ.โชคชัยที่พบป่วยโควิด-19 รวด 4 คนหลังถูกปิดครบ 14 วัน ชี้รอประเมินอีกครั้งเพื่อความสบายใจทุกฝ่ายไม่ให้กลับมาระบาดซ้ำอีก ผู้ว่าฯ ย้ำห้ามเล่นน้ำสงกรานต์-ขายเหล้าเบียร์เด็ดขาด พบทยอยกลับสงกรานต์แล้วกว่า 500 คน
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.สุผล ตติยนันทพร ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และ นพ.สุพินิจ แก้วสุวรรณะ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการป้องกันรวมทั้งการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
ล่าสุด จ.นครราชสีมามีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อจํานวน 608 ราย (เก่า 596+ใหม่ 12 ราย) แบ่งเป็น พบผู้ป่วยยืนยันโรค COVID-19 จํานวน 18 ราย ไม่มีรายใหม่เพิ่ม (โดยผู้ป่วยยืนยัน 18 คน แบ่งเป็นรักษาหาย 5 ราย (กรณีที่ 4, 3, 5, 9, 15) มีอาการดีขึ้น 10 ราย และอาการคงที่ 3 ราย) ไม่พบเชื้อจํานวน 585 ราย (เก่า 574+ใหม่ 11 ราย) รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจํานวน 5 ราย โดยเป็นผลจากการดําเนินงานคัดกรองประชาชนจํานวน 64.661 ราย (ยอดสะสม ณ วันที่ 3 ม.ค.-12 เม.ย. 2563 เวลา 11.00 น.)
ส่วนกรณีการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ (PN) มีจํานวน 276 ราย ( ใหม่ 0 ราย) ไม่ป่วย 276 ราย กักตัวครบ 14 วัน จํานวน 250 ราย (ครบเพิ่ม 10 ราย) ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจํานวน 26 ราย ในจํานวนนี้มีผู้เดินทางจากต่างประเทศ (ตั้งแต่ 31 มี.ค.-12 เม.ย. 2563) รวมจํานวน 43 ราย (อเมริกา 2, ญี่ปุ่น1, กัมพูชา 26, มาเลเซีย 10, ไอร์แลนด์ 1, สปป.ลาว 3) มีผู้อยู่ในสถานที่กักตัวปัจจุบัน 59 ราย (เดิม 69 ราย ครบกักตัวแล้ว 10 ราย) ได้แก่ รพ.มทส. 38 ราย, รร.ปัญจดารา 10 (644) ราย, ศูนย์วิจัยฯ สูงเนิน 3, รพ.พิมาย 2 และกักตนเองที่บ้าน 6 ราย
จากข้อมูลโปรแกรม COVID 19 KORAT พบว่า มีผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดนครราชสีมารายงานครบทั้ง 32 อําเภอ รวม 27,609 ราย เฝ้าระวังครบ 14 วัน จํานวน 19,104 ราย ปัจจุบันติดตามต่อเนื่องจํานวน 8,505 ราย โดยคืนวันที่ 11 เม.ย. มีประชาชนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ถูกดำเนินคดี 19 ราย รวมยอดสะสมผู้ถูกดำเนินคดีทั้งจังหวัด จำนวน 164 ราย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการเปิดหมู่บ้านท่าอ่าง ม.3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย หลังจากทางจังหวัดฯ ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 ในหมู่บ้านดังกล่าวจำนวน 4 ราย ซึ่งครบกำหนดปิดหมู่บ้าน 14 วันในวันพรุ่งนี้ (13 เม.ย.) นั้น จากการหารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมายังให้ระงับการเปิดหมู่บ้านท่าอ่าง ม.3 ต.ท่าอ่างออกไปจนกว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ จะลงพื้นที่เข้าไปประเมินสถานการณ์ในหมู่บ้าน เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้านถึงการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อกลับมาระบาดซ้ำ โดยแนวทางปฏิบัติตามหลักวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขจะต้องปิดหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาดของโรคเป็นเวลา 28 วัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้หลังจากเข้าไปประเมินสถานการณ์การควบคุมโรคระบาดในหมู่บ้านท่าอ่างแล้ว คณะกรรมการจะกลับมาหารือเรื่องการเปิดหมู่บ้านท่าอ่างอีกครั้ง
วันเดียวกันนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่บ้านท่าอ่าง ม.3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และติดตามการปิดล้อมหมู่บ้านท่าอ่าง หลังทางจังหวัดประกาศปิดหมู่บ้านท่าอ่างเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากมีชาวบ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 ราย ส่วนพี่น้องประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 10 รายที่ถูกนำตัวไปกักที่ รพ.มทส. ขณะนี้ได้เดินทางกลับเข้าหมู่บ้านท่าอ่างแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากสังคมในหมู่บ้านเป็นอย่างดี ไม่มีการต่อต้าน ส่วนเด็กวัย 1.2 ขวบ ที่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรักษาหายตรวจไม่พบเชื้อ ก็ได้กลับเข้าหมู่บ้านแล้ว หลังทางจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน
นายวิเชียรกล่าวอีกว่า ช่วงสงกรานต์ 13-14-15 เม.ย.นี้ ทางจังหวัดฯ ได้ให้งดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ทั้งหมด ทั้งห้ามเล่น สาดน้ำสงกรานต์ การรดน้ำดำหัว การสงฆ์น้ำพระ ต่างๆ ต้องงดหมด ซึ่งได้ออกประกาศห้ามเล่นน้ำทั้งจังหวัด ทั้ง 32 อำเภอ ทุกตำบล หมู่บ้าน ชุมชน ไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นน้ำในท่าน้ำในที่สาธารณะ การสาดน้ำ การใช้รถกระบะบรรทุกถังน้ำ หรือการใช้สายยางฉีดน้ำในที่สาธารณะ หรือใช้ถังใส่น้ำตั้งริมถนนเล่นสาดน้ำต่างๆ เช่นนี้ไม่ได้ ขณะเดียวกัน จ.นครราชสีมาได้ห้ามจำหน่ายสุรา เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 11-18 เม.ย. 2563 หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ฉะนั้นขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนอยู่กับบ้าน การตั้งวงสังสรรค์ดื่มสุราก็ถือว่าเป็นการมั่วสุมผิดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ทางจังหวัดฯ กังวล คือ ช่วงสงกรานต์เกรงว่าประชาชนจะเดินทางจากกรุงเทพฯ กลับมาบ้านกันจำนวนมาก ล่าสุดให้อำเภอต่างๆ สำรวจมีมาแล้วรวมประมาณ 500 คน ซึ่งถือว่าจำนวนนี้น้อยมากหากเทียบกับสถานการณ์สงกรานต์ปกติ แต่ถือว่ามากสำหรับสถานการณ์ที่ต้องควบคุมโรคระบาด และต้องกักตัวคนเหล่านี้ 14 วัน ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่กรุงเทพฯ ช่วงนี้ไม่มีการหยุดสงกรานต์ 13-14-15 เม.ย. หากไม่จำเป็นไม่ควรเดินทางกลับบ้าน แต่ให้ใช้วิธีการโทรศัพท์มาอวยพรสงกรานต์กับพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ เพราะหากเดินทางจะมีด่านตรวจต่างๆ และเมื่อมาถึงแล้วจะต้องกักตัวอีก 14 วัน และที่สำคัญไม่สามารถชุมนุมสังสรรค์ซื้อสุรามาดื่มกันได้ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดท่านใดที่อยู่กรุงเทพฯ, จ.ชลบุรี, จ.สมุทรปราการ หรือจังหวัดอื่นๆ ก็ขอให้อยู่ที่เดิม หากมา จ.นครราชสีมาก็จะถูกกักตัว 14 วันไม่มีโอกาสได้เล่นสงกรานต์ เพราะห้ามไม่ให้เล่นสงกรานต์อยู่แล้ว