xs
xsm
sm
md
lg

พบกลุ่มคนเปราะบางยังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือจากสถานการณ์วิกฤตการณ์โควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภูมิภาค - ในสถานการณ์วิกฤตการณ์ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 พบกลุ่มคนเปราะบางที่ได้รับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับโรคและเผยแพร่โรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่มีบ้านด้วยสาเหตุต่างๆ รวมทั้งผู้หญิงและเด็กจากความรุนแรงในครอบครัว

นายสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะพยายามช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ก็มีกลุ่มเปราะบางที่ตกหล่นจากการช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไร้บ้าน ซึ่งมีเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ แต่ความช่วยเหลือที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วางมาตรการไว้ ช่วยเหลือเฉพาะคนไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน

คนไร้บ้านจำนวนมากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน เป็นคนตกหล่น ไร้ญาติ ทั้งที่เป็นคนไทย และมีแรงงานข้ามชาติอีกจำนวนหนึ่งที่ตกงาน ไม่มีค่าเช่าบ้าน ไม่มีที่อยู่ รวมทั้งไม่สามารถเดินทางกลับประทศได้ในขณะนี้ กลุ่มเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือของรัฐได้ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต้องรีบดำเนินการช่วยเหลือคนเหล่านี้โดยด่วน เพราะคนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะได้รับและเผยแพร่โรคระบาดโควิด-19 เนื่องจากต้องอยู่ในพื้นที่สาธารณะและไม่มีการเฝ้าระวัง

ทั้งนี้รัฐบาลได้มีโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" บริการที่พักสะอาดอาหาร 3 มื้อ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับคนไร้ญาติ คนตกงานในช่วงนี้ โดยจัดบ้านมิตรไมตรีไว้รองรับอย่างน้อย 4 แห่ง สามารถติดต่อสอบถามและใช้บริการได้ที่สายด่วน 1300 ขณะที่สายด่วน 1300 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยันว่ามาตรการที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยเหลือ คือ สำหรับคนไทย เนื่องจากต้องใช้บัตรประชาชนในการติดต่อ

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเข้าไปดูแลใกล้ชิดคือ กลุ่มผู้หญิงและเด็กที่ได้รับความตึงเครียดของการอยู่ร่วมกันในครอบครัว โดยไม่สามารถเดินทางไปมาได้ ประกอบกับความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่คนจำนวนมากไม่มีงานทำหรือรายได้ลดลงมาก ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งพบว่าช่วงการระบาดของโควิด-19 มีความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นมาก

"รัฐควรรณรงค์และเพิ่มช่องทางเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ประสบความรุนแรง รวมถึงการเพิ่มทรัพยากร เพื่อสนับสนุนที่พักพิงชั่วคราวสำหรับบุคคลที่ประสบความรุนแรง เช่น บ้านมิตรไมตรี หรือบ้านพักเด็กและครอบครัว ตลอดจนการให้คำแนะนำคำปรึกษาออนไลน์ ทางสายด่วน 1300 อีกทั้งปรับบริการให้เข้ากับบริบทสถานการณ์วิกฤตในเชิงรุกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือ"

ในรายงานของ UN Women เรื่อง “Policy Brief : The Impact of COVID-19 on Women” ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอายุ 15-49 ปี จำนวน 243 ล้านคนทั่วโลกต้องเผชิญต่อความรุนแรงทางเพศ และ/หรือความรุนแรงทางร่างกาย แต่ปัจจุบัน ความรุนแรงมีแนวโน้มที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความเครียดด้านความปลอดภัย สุขภาพและการเงิน อีกทั้งความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น