เลย - “บ้านสวนกล้วย” ในอำเภอเมืองเลยลงประชาคมปิดหมู่บ้าน ห้ามเข้า-ออกหวังป้องกันโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดเข้าชุมชน ขณะลูกบ้านกว่า 60 คนที่กลับจากเร่ขายลอตเตอรี่ในกรุงเทพฯ-ชลบุรี ฯลฯ ถูกกักตัวดูอาการทันทีที่กลับถึงหมู่บ้าน
“บ้านสวนกล้วย” ต.กกทอง อ.เมือง จ.เลย เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่เลือกป้องกันคนในชุมชนไม่ให้เป็นเหยื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะเห็นภาพข่าวจากสื่อแล้วเป็นโรคติดเชื้อที่น่ากลัว อันตรายถึงชีวิต อีกทั้งคนในหมู่บ้านราวครึ่งหนึ่งมีอาชีพขายลอตเตอรี่เร่ กลับมาจากกรุงเทพฯ ชลบุรี ฯลฯ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังคัดกรองโรคอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดผู้นำหมู่บ้านได้ประกาศเสียงตามสาย นัดหมายลูกบ้านทำประชาคมหมู่บ้านโหวตเสียงว่าสมควรจะปิดหมู่บ้านห้ามคนในออก ไม่ให้คนนอกเข้าจนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และผลโหวตมติเป็นเอกฉันท์ให้ปิดหมู่บ้าน
นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมือง จ.เลย เปิดเผยว่า หมู่บ้านสวนกล้วย ต.กกทอง มีราษฎรอาศัยอยู่ในหมู่บ้านประมาณ 80 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก และส่วนหนึ่งออกเร่ขายลอตเตอรี่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เขตปริมณฑล ชลบุรี ราว 67 คน ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้กลับเข้าหมู่บ้านหมดแล้วเพราะรัฐบาลเลื่อนการออกสลากฯ ออกไปเป็นต้นเดือนพฤษภาคม
ทันทีที่กลับมาที่บ้านและเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและกักตัว ทางชาวบ้านก็ได้หารือร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกทั้งสภาพภูมิประเทศของหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านสุดท้ายของตำบล มีทางเข้าทางออกทางเดียว จึงมีมติร่วมกันปิดหมู่บ้านเพื่อที่จะสกรีนคนเข้าออก
“หากไม่ใช่คนบ้านสวนกล้วยก็จะไม่อนุญาตให้เข้าได้อย่างเด็ดขาด ส่วนคนออก หากต้องออกจะต้องมีวัตถุประสงค์และแจ้งอย่างชัดเจนว่าไปทำอะไรจะกลับเวลาใด ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นมาตรการทางสังคมตัวหนึ่งที่พี่น้องประชาชนร่วมกับผู้นำช่วยกันเฝ้าระวังกันเอง” นายกิตติคุณกล่าว
จากการสุ่มสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านต่างเห็นด้วยอย่างมากที่ตั้งกฎเหล็กดังกล่าวขึ้นมา โดยเฉพาะคนแปลกหน้าห้ามเข้าหมู่บ้านเด็ดขาด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาไปในพื้นที่เสี่ยงที่ไหนมาบ้าง เพราะหากไม่ระวังจะเป็นอันตรายต่อคนในหมู่บ้าน
ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเลย ผู้ติดเชื้อสะสม 2 ราย รักษาหาย 1 ราย กำลังรักษาที่โรงพยาบาลเลย 1 ราย รอผลการตรวจ 1 ราย
“บ้านสวนกล้วย” ต.กกทอง อ.เมือง จ.เลย เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่เลือกป้องกันคนในชุมชนไม่ให้เป็นเหยื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะเห็นภาพข่าวจากสื่อแล้วเป็นโรคติดเชื้อที่น่ากลัว อันตรายถึงชีวิต อีกทั้งคนในหมู่บ้านราวครึ่งหนึ่งมีอาชีพขายลอตเตอรี่เร่ กลับมาจากกรุงเทพฯ ชลบุรี ฯลฯ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังคัดกรองโรคอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดผู้นำหมู่บ้านได้ประกาศเสียงตามสาย นัดหมายลูกบ้านทำประชาคมหมู่บ้านโหวตเสียงว่าสมควรจะปิดหมู่บ้านห้ามคนในออก ไม่ให้คนนอกเข้าจนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และผลโหวตมติเป็นเอกฉันท์ให้ปิดหมู่บ้าน
นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมือง จ.เลย เปิดเผยว่า หมู่บ้านสวนกล้วย ต.กกทอง มีราษฎรอาศัยอยู่ในหมู่บ้านประมาณ 80 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก และส่วนหนึ่งออกเร่ขายลอตเตอรี่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เขตปริมณฑล ชลบุรี ราว 67 คน ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้กลับเข้าหมู่บ้านหมดแล้วเพราะรัฐบาลเลื่อนการออกสลากฯ ออกไปเป็นต้นเดือนพฤษภาคม
ทันทีที่กลับมาที่บ้านและเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและกักตัว ทางชาวบ้านก็ได้หารือร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกทั้งสภาพภูมิประเทศของหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านสุดท้ายของตำบล มีทางเข้าทางออกทางเดียว จึงมีมติร่วมกันปิดหมู่บ้านเพื่อที่จะสกรีนคนเข้าออก
“หากไม่ใช่คนบ้านสวนกล้วยก็จะไม่อนุญาตให้เข้าได้อย่างเด็ดขาด ส่วนคนออก หากต้องออกจะต้องมีวัตถุประสงค์และแจ้งอย่างชัดเจนว่าไปทำอะไรจะกลับเวลาใด ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นมาตรการทางสังคมตัวหนึ่งที่พี่น้องประชาชนร่วมกับผู้นำช่วยกันเฝ้าระวังกันเอง” นายกิตติคุณกล่าว
จากการสุ่มสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านต่างเห็นด้วยอย่างมากที่ตั้งกฎเหล็กดังกล่าวขึ้นมา โดยเฉพาะคนแปลกหน้าห้ามเข้าหมู่บ้านเด็ดขาด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาไปในพื้นที่เสี่ยงที่ไหนมาบ้าง เพราะหากไม่ระวังจะเป็นอันตรายต่อคนในหมู่บ้าน
ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเลย ผู้ติดเชื้อสะสม 2 ราย รักษาหาย 1 ราย กำลังรักษาที่โรงพยาบาลเลย 1 ราย รอผลการตรวจ 1 ราย
