ระยอง - ผวจ.ระยองเข้ม! เซ็นคำสั่งปรับ 2 หมื่น ประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัยออกนอกเคหสถาน หลังคุมโควิด-19 อยู่หมัด ขณะที่ผู้ป่วย 5 ราย รักษาตัวหายจนกลับบ้านได้หมดแล้ว ด้านทารก 1 เดือน ที่ติดเชื้อจากพ่อและแม่ที่ทำงานใน กทม.ถูกส่งมาเลี้ยงที่ จ.ระยอง เข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (8 เม.ย.) ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง ได้ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จ.ระยอง ที่ศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติ COVID-19 จ.ระยอง ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่รวม 6 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะนี้มีอาการหายเป็นปกติและสามารถกลับบ้านได้แล้ว จำนวน 5 ราย
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 6 ซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง 1 เดือน ที่ติดเชื้อมาจากพ่อและแม่ที่ทำงานกรุงเทพฯ และถูกส่งตัวมาให้ตาและยายใน จ.ระยอง เลี้ยงดูขณะนี้ถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรแล้วเช่นกัน
นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของ จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-7 เม.ย.2563 พบจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 5 ราย และขณะนี้รักษาหายกลับบ้านได้ทั้งหมดแล้ว จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในวันนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ยังขอให้ประชาชนปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันตนเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้นต่อไป
และโรงพยาบาลระยอง ยังได้ประกาศขอรับบริจาควัสดุที่ยังขาดแคลนสำหรับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวม 16 รายการ เช่น ชุดเครื่อง PPE Surgical mask N95 ถุงมือใช้แล้ว เป็นต้น ช่องทางการบริจาค ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีธนาคาร เงินบริจาคโรงพยาบาลระยอง เลขที่บัญชี 235-0-43960-7.
ผวจ.เซ็นคำสั่งเข้ม ปรับ 2 หมื่น ประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย
ขณะที่ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ลงนามประกาศให้ประชาชนในพื้นที่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อออกจากเคหสถาน ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับเกิน 2 หมื่นบาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นี้ไปจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
งดจัดงานประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ในเทศกาลสงกรานต์
ด้าน นางศุภดี วิถีธรรมศักดิ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง กล่าวว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ขอประกาศให้จังหวัดต่างๆ งดการจัดงานประเพณี และพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และขอให้ประประชาชนจัดกิจกรรมแต่ภายในครอบครัวเท่านั้น
เช่น การสรงน้ำพระพุทธรูป ซึ่งก่อนและหลังการทำกิจกรรมร่วมกันก็ขอให้แต่งกายมิดชิด สวมใส่หน้ากากอนามัย ใช้น้ำสะอาดหรือสบู่เหลว เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เช่นเดียวกันกับการรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ที่ต้องคำนึงว่าผู้สูงอายุอาจติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป
และให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำที่ถูกต้อง หรือควรใช้การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์แทน และขอให้มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา