ระยอง - ไฟไหม้ป่าเขาจอมแห จ.ระยอง ติดต่อกัน 2 วัน ทำพื้นที่ป่าเสียหายกว่า 600 ไร่ ชาวบ้าน-เครือข่ายอาสาสมัครฯ โวยไร้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือจนต้องระดมกำลังดับไฟเอง จี้ รมว.ทรัพย์ฯ กระตุ้นลูกน้องทำงานเหตุเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญแต่กลับเกิดไฟไหม้บ่อยครั้ง เชื่อฝีมือมนุษย์
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ว่าได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนเขาจอมแห ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากฝีมนุษย์ที่จุดไฟเผาป่า จึงระดมกำลังชาวบ้าน และเครือข่ายจิตอาสาคนรักษ์ป่าเขาจอมแห ประสานงานร่วมกับกลุ่มรถจักรยานยนต์วิบากกว่า 10 คน เข้าช่วยกันดับไฟ จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
โดยเครือเครือข่ายอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ต.มะขาม บอกว่า เขาดังกล่าวมักเกิดไฟไหม้ขึ้นบ่อยครั้ง และที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ หรือสนับสนุนจากหน่วยงานของทางจังหวัดระยอง แต่มักจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์เข้ามาขอภาพไฟไหม้ป่าทุกครั้งหลังจากที่ชาวบ้านช่วยกันดับแล้วเสร็จ เช่นเดียวกับในครั้งนี้ ซึ่งทางเครือข่ายฯ ได้ปฏิเสธกลับไปเพราะไม่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐนำภาพไปใช้เสนอเป็นผลงานของตนเอง
ทั้งนี้ เขาจอมแห ถือเป็นผืนป่าสมบูรณ์แห่งสุดท้ายที่มีความชุ่มชื้นของต้นน้ำ และยังเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด รวมทั้งยังเป็นทั้งป่าหวงห้าม พ.ศ.2492 ป่าชุมชน และป่าปลูกของกรมป่าไม้ และป่าเขตนิคมสร้างตนเอง
ที่สำคัญอยู่ในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นทำให้ป่าถูกไฟเผาผลาญประมาณ 500-600 ไร่ และทีมเครือข่ายฯ ยังพบเต่าเหลือง 2 ตัว ที่พากันคลานหนีไฟ จนต้องช่วยกันอุ้มนำปล่อยในที่ปลอดภัย
นอกจากนั้น ยังพบกับดักนกและไก่ป่าอีกจำนวนหนึ่งที่พรานล่าสัตว์ป่านำมาวางไว้ โดยพบว่าพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ เป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบทำไร่สับปะรดเป็นจำนวนมากบนเขาที่สูงชัน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้าน และเครือข่ายฯ ต้องการให้รู้ไปถึงหู นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้มีการกระตุ้นเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ทำงานตามหน้าที่ของตนเองมากขึ้น" ชาวบ้าน กล่าว