ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เปิดกล้องวงจรปิดดูชัดๆ เหตุโจ๋ยกแก๊งป่วน รพ.นครพิงค์ตอนเช้ามืด เหตุไม่พอใจถูกเตือนไม่สวมหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด-19 และห้ามเข้า ด้าน จนท.เปิดใจทำตามหน้าที่และเตือนด้วยความหวังดี ขณะที่ ตร.เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หวานใจ โดเรมอน” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โพสต์บอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงประมาณเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 เม.ย. 63) ว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่คัดกรองคนไข้ก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาล ได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขับรถยนต์เก๋งมาส่งเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัว แต่เนื่องจากทั้งหมดไม่มีใครสนใจหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ตักเตือน แต่กลายเป็นว่ากลุ่มวัยรุ่นแสดงความไม่พอใจ อีกทั้งมีเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาสมทบเพิ่มอีกประมาณ 14-15 คน และแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ช่วงบ่ายวันนี้ (1 เม.ย. 63) จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลนครพิงค์พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 03.24 น. วันนี้ โดยเริ่มจากมีรถยนต์เก๋งคันหนึ่งขับเข้ามาส่งผู้ป่วยที่บริเวณหน้าแผนกฉุกเฉิน แต่เนื่องจากทั้งหมดไม่มีผู้ใดสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน เจ้าหน้าที่คัดกรองจึงอนุญาตให้เฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าไปเท่านั้น แต่กลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มเพื่อน 4-5 คนที่มาส่ง และต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นอีกประมาณสิบกว่าคนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่บริเวณลานจอด และพยายามจะเข้าไปในโรงพยาบาลแต่เจ้าหน้าที่ห้ามไว้อีกเช่นเคยเนื่องจากไม่มีผู้ใดสวมใส่หน้ากากอนามัยและทางโรงพยาบาลจะอนุญาตให้เข้าเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้น จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจและมีการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ขณะที่นางสาวอรทัย แสนใจเป็ง อายุ 46 ปี เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงานสาขาการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หวานใจ โดเรมอน” ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดประมาณ 03.00-04.00 น. ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่คัดกรองผู้ที่เข้าไปในโรงพยาบาล ระหว่างนั้นได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งประมาณ 4-5 คนขับรถยนต์เก๋งเข้ามาส่งผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เนื่องจากทั้งหมดไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน จึงอนุญาตให้เข้าไปได้เฉพาะผู้บาดเจ็บ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มวัยรุ่น จากนั้นสักพักหนึ่งมีกลุ่มเพื่อนของวัยรุ่นกลุ่มนี้ประมาณ 14-15 คน ซึ่งทั้งหมดน่าจะอายุประมาณ 15-18 ปี ขี่รถจักรยานเข้ามาจอด และพยายามจะเข้าไปด้านในโรงพยาบาล จึงได้ห้ามปรามและตักเตือนด้วยความหวังดีเนื่องจากทั้งหมดไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยสักคนเดียว
ทั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้แก่วัยรุ่นกลุ่มนี้ที่ไปรวมตัวกันอยู่บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ พร้อมมีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา ทั้งการพูดประชดประชัน แดกดันต่างๆ นานาคล้ายข่มขู่ ซึ่งด้วยความหวาดกลัวและกังวลว่าสถานการณ์จะบานปลายจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเข้ามาระงับเหตุ ทำให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวยอมแยกย้ายกลับไป โดยยืนยันว่าการตักเตือนดังกล่าวเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยนั้นเป็นการทำตามหน้าที่ และด้วยความหวังดี เนื่องจากช่วงนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งโรงพยาบาลถือเป็นพื้นที่อ่อนไหวต่อการรับและแพร่เชื้อด้วย หากไม่ป้องกันตัวเองวัยรุ่นกลุ่มนี้อาจจะนำเชื้อมาแพร่หรือรับเชื้อแล้วทำให้ตัวเองป่วยหรือนำกลับไปแพร่ที่บ้านก็ได้ จึงอยากให้เห็นใจและเข้าใจเจ้าหน้าที่ในการทำงานด้วย เพราะทุกวันนี้ต้องทำงานกอย่างหนักอยู่แล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ริม ซึ่งเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่โรงพยาบาลนครพิงค์และสอบปากคำผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า เบื้องต้นกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว และจะขยายผลติดตามตัววัยรุ่นทั้งหมดให้ได้ พร้อมเชิญตัวผู้ปกครองมาพูดคุยสอบถามด้วยเพื่อว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีก ส่วนฐานความผิดหรือการจะดำเนินคดีหรือไม่อย่างไรนั้นจะต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นเพียงการมาส่งหรือเยี่ยมเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยจริงหรือไม่ และมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการกระทำความผิดใดหรือไม่อย่างไร หากพบมีความผิด เช่น การมั่วสุมก่อความวุ่นวาย หรือดัดแปลงรถจักรยานยนต์ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย