บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์พบป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 3 ราย เป็น 12 ราย เป็นสาวร้านนวดจากภูเก็ต หนุ่มเชฟกลับจากอังกฤษ และแม่ผู้ป่วยรายที่ 10 ที่กักตัวหละหลวมมาอยู่ในบ้านกับครอบครัว เผยมีกลุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนการกักตัวถูกติดตามตัวมาไว้ยังสถานกักตัวที่เตรียมไว้แล้ว 20 คน
วันนี้ (31 มี.ค.) นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 12 ราย
จากข้อมูลรายงานพบว่า ผู้ป่วยรายที่ 10 เป็นหญิงอายุ 56 ปี มีประวัติเสี่ยงเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 9 (บุตรสาวที่ป่วยก่อนหน้านี้) โดยวันที่ 23 มี.ค. บุตรสาวที่มีผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 กลับมานอนที่บ้านของตัวเองเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยลูกสาวแยกไปนอนชั้นบนคนเดียว ส่วนพ่อแม่ และบุตรชายนอนรวมอยู่ชั้นล่าง จากนั้นวันที่ 24 มี.ค. ผู้เป็นแม่เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ วันที่ 27 มี.ค. เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ และทราบผลในวันถัดมาว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งขณะนี้ถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยรายนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ไม่ได้กักตัวอย่างจริงจัง ยังคงทำกิจกรรมและใช้ของร่วมกันภายในบ้าน เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ติดเชื้อ
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 11 เป็นหญิง อายุ 25 ปี มีประวัติทำงานที่ร้านนวดแห่งหนึ่งที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เมื่อร้านปิดให้บริการจึงเดินทางกลับมายังภูมิลำเนา โดยวันที่ 22 มี.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ได้ออกจากบ้านพักไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต แห่งที่ 1 และเดินทางไปสถานีขนส่งฯ ภูเก็ตแห่งที่ 2 โดยรถตู้ประจำทาง เวลา 16.00 น. เดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.บุรีรัมย์ จากสถานีขนส่งฯ ภูเก็ตแห่งที่ 2 ด้วยรถโดยสารประจำทาง ภูเก็ต-โคราช-อุบลราชธานี ระหว่างทางได้แวะรับประทานอาหารตามจุดที่ทางบริษัทจัดไว้
จากนั้นวันที่ 23 มี.ค. ผู้ป่วยเดินทางมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.บุรีรัมย์ เวลา 16.45 น. เหมารถแท็กซี่จาก สถานีขนส่งฯ ถึงบ้านเวลา 18.00 น. โดยไม่ได้แวะที่ไหน เมื่อมาถึงภูมิลำเนาก็ทำการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน วันที่ 28 มี.ค. ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง เจ้าหน้าที่ รพ.สต.จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้ามารับตัวไปรักษา วันที่ 29 มี.ค.ผู้ป่วยมีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปวดศีรษะ เหนื่อย เบื่ออาหาร โรงพยาบาลจึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 12 เป็นชาย อายุ 42 ปี ประกอบอาชีพเป็นเชฟ เพิ่งเดินทางกลับจากเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ในวันที่ 29 มี.ค. ได้เหมารถแท็กซี่จากสนามบินกลับมาที่ภูมิลำเนาในวันเดียวกัน ได้กักตัวเองที่บ้าน (แยกอยู่จากสมาชิกในครอบครัว) จากนั้นวันที่ 30 มี.ค. อสม.ได้เข้าไปวัดไข้และติดตามกรณีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง พบว่ามีอาการไข้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ รพ.สต. และประสานโรงพยาบาลเพื่อนำส่งต่อผู้ป่วย กระบวนการเป็นไปตามแนวทางผู้ที่เข้าข่าย PUI และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ทราบผลในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสารพันธุกรรมโควิด-19
นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ระบุว่า จากข้อมูลพบว่าผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่เป็นคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และต่างประเทศ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่ออย่างเข้มข้น ทำให้ทราบข้อมูลผู้ป่วยรวดเร็วขึ้น แต่ก็มีบางส่วนที่ติดเชื้อจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของทางราชการอย่างจริงจังและยังมีการฝ่าฝืนการกักตัว ทางจังหวัดจึงได้ตัดชุดปฏิบัติการติดตามกลุ่มที่ฝ่าฝืน เพื่อนำตัวมาไว้ยังสถานที่กักกันที่เตรียมไว้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ฝ่าฝืนถูกนำตัวมากักกันไว้ประมาณ 20 คน
