เพชรบุรี - ชาวบ้านในอำเภอเขาย้อย เรียกร้องให้ทางการสั่งปิดโรงงานใหญ่ เหตุมีคนงานจำนวนมาก ไร้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อ และเป็นคนงานต่างชาติเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ร้านตัดผมกลับสั่งปิด กังขาหรือเป็นของนายทุน
จากกรณีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่รัฐบาลและจังหวัดได้ออกประกาศมาตรการต่างๆ จำนวนมาก แต่กลับพบว่า ยังปล่อยให้โรงงานขนาดใหญ่เปิดทำงานอยู่ แต่ร้านตัดผม ซึ่งเป็นอาชีพของคนไทยแท้ๆ แค่ 1 เก้าอี้ ยังสั่งปิด ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนรัฐและเอกชนก็สั่งปิด
วันนี้ (30 มี.ค.) มีชาวบ้านบริเวณวัดหนองส้ม ต.สระพัง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ขึ้นเฟซบุ๊กเป็นภาพคนงานของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอเขาย้อย ในภาพปรากฏว่ามีคนงานจำนวนมากกำลังเดินทางเข้าไปทำงานที่โรงงานแห่งนั้น ซึ่งในภาพและจากการตรวจสอบพบว่า มีคนงานจำนวนมากทั้งชายและหญิงกำลังเข้าทำงาน ในภาพไม่พบการสวมใส่แมสก์แต่อย่างใด และไม่ชัดเจนว่ามีการคัดกรองหรือควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อแต่อย่างใด
ในโลกออนไลน์มีการเปรียบเทียบกันว่า ในมาตรการของรัฐ กลับสนับสนุนให้เปิดโรงงานได้ ตามข้อ 14 โรงงานเหล่านี้มีคนงานเป็นคนต่างชาติเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมร้านตัดผม ซึ่งเป็นอาชีพของคนไทย จำนวน 1 เก้าอี้ ระหว่างช่างตัดผมกับลูกค้า รัฐบาลหรือประกาศจังหวัดถึงได้สั่งปิด หรือเป็นกิจการของนายทุนจึงทำได้ ทำให้มองได้ว่าเป็นมาตรการสองมาตรฐาน ซึ่งผู้รับผิดชอบต้องแก้ไข เพราะกรณีดังกล่าวทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความกังวลและไม่มั่นใจในมาตรการของรัฐที่ลักลั่น และอาจแฝงด้วยผลประโยชน์จากการปฏิบัติดังกล่าว