บุรีรัมย์- บุรีรัมย์สั่งปิด 3 หมู่บ้านห้ามเข้า-ออกเด็ดขาด หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 9 ราย ทั้งมีผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อเนื่องดื่มสังสรรค์กันในหมู่บ้าน จนท.ต้องนำมากักตัวยังสถานที่ที่เตรียมไว้อีก 15 คน ป้องกันเชื้อแพร่กระจาย ผู้ว่าฯย้ำหากฝ่าฝืนโทษหนัก
วันนี้ ( 27 มี.ค.) นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ จุลถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด , นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ , และผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่บริเวณชั้น 1 สนามช้างอารีนา เกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
จากข้อมูลรายงานของสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าภายในวันเดียวมีผู้ป่วยติดเชื้อรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย รวมแล้วขณะนี้บุรีรัมย์มียอดผู้ป่วยสะสมแล้วจำนวน 9 ราย เป็นชายชาวต่างชาติ 2 ราย และหญิงชาวไทย 7 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรักษาตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลประจำอำเภอ รวมถึงโรงพยาบาลสนามของเอกชน
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เป็นหญิงชาว อ.ละหานทราย 1 ราย ซึ่งมีประวัติเสี่ยงทำงานอยู่ในบาร์ ที่กรุงเทพมหานคร ส่วนอีก 3 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.บ้านกรวด มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยชาวต่างชาติ รายที่ 2 โดยพบว่าทั้ง 3 ราย นี้เป็นภรรยา ลูกสาววัย 12 ขวบ และเป็นคนขับรถให้กับชาวต่างชาติที่ป่วย ทั้งนี้พบว่าสาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยหลายรายนั้น เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวได้มีการไปสังสรรค์ดื่มกินกับคนในหมู่บ้านหลายกลุ่ม หลายเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในหมู่บ้านดังกล่าวได้
ดังนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจึงมีมติเห็นชอบสั่งปิดทั้ง 3 หมู่บ้าน ที่มีการพบผู้ป่วยทั้ง 4 ราย คือ หมู่ 7 บ้านหัวถนน ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด , หมู่ 7 บ้านตากอง และหมู่ 12 บ้านสระกลาง ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อเป็นวงกว้างมากขึ้น
โดยทั้ง 3 หมู่บ้านที่มีมติให้ปิดนั้น ห้ามผู้ใดเข้าหรือออกจากพื้นที่ควบคุมโดยเด็ดขาด เป็นระยะเวลา 14 วัน หากมีความจำเป็นจะต้องเข้า-ออก ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ หรือผู้บัญชาการเหตุการณ์เท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรณีการปิดหมู่บ้านเสี่ยงทั้ง 3 หมู่บ้านนั้น สั่งการให้ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้สนับสนุนเสบียงอาหารน้ำดื่มเพื่อการยังชีพ รวมถึงยารักษาโรคที่จำเป็น ให้กับทุกครอบครัว
ส่วนผู้ที่เสี่ยงสัมผัสเชื้อจำนวน 15 คน ทางเจ้าหน้าที่กได้นำตัวมากักกันเพื่อเฝ้าดูอาการยังสถานที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจัดเตรียมไว้ บริเวณสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เพราะจะต้องกักเฝ้าสังเกตอาการอย่างเข้มข้น หากพบมีไข้หรืออาการผิดปกติจะได้ทำการรักษาอย่างทันถ่วงที ทั้งเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อในอีกทางหนึ่งด้วย
จากกรณีดังกล่าวทางคณะกรรมการโรคติดต่อ ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่หากใครฝ่าฝืนก็จำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังโดยไม่ละเว้น
