ลำปาง - สถานีขนส่งผู้โดยสารลำปางเงียบเหงา..คนเดินทางลด เหลือบริษัทรถโดยสารเปิดบริการวันละเที่ยวเพียง 3 ราย แต่ไม่รับจองตั๋วล่วงหน้า-ไม่มั่นใจว่าบริษัทจะสั่งหยุดวิ่งเมื่อไหร่หลังขาดทุนทุกเที่ยว
วันนี้ (27 มี.ค.) บรรยากาศในสถานีขนส่งผู้โดยสารนครลำปางเงียบเหงาถนัดตา มีเพียงเจ้าหน้าที่ขนส่งที่ต้องมานั่งทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาลำปาง และพนักงานขายตั๋วรถโดยสารบางบริษัทที่จะเข้ามานั่งเพื่อรอคืนเงินมัดจำลูกค้า ขณะที่คนเดินทางมาจาก กทม. และอีสานกลับลำปางมีเพียง 3-5 คนต่อเที่ยวเท่านั้น
ซึ่งเมื่อมาถึงทุกคนต้องถูกตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนที่จะต้องไปกรอกข้อมูลว่าจะไปพักที่ไหน พร้อมเบอร์ติดต่อให้ละเอียด เพื่อจะได้ประสาน จนท.ในพื้นที่นั้นๆ เข้าตรวจสอบได้ทันที
ขณะที่รถโดยสารของบริษัทเอกชนต่างๆ ที่เคยให้บริการจากเดิมมีประมาณ 15 บริษัท ขณะนี้เหลือให้บริการเพียง 3 บริษัท ซึ่งเป็นรถโดยสารที่แวะรับผู้โดยสารที่จังหวัดลำปาง 2 บริษัท คือ ศรีทะวงค์ทัวร์ (ลำปาง-กทม.) 1 เที่ยว เวลา 09.00 น. และนครชัยทัวร์ (เชียงใหม่-ระยอง) 1 เที่ยว เวลา 09.00 น. และนครชัยแอร์ (เชียงใหม่-นครราชสีมา) เพียงวันละหนึ่งรอบ คือเวลา 09.00 น.
ส่วนรถโดยสารที่วิ่งระยะสั้นระหว่างจังหวัด ซึ่งเป็นมินิบัส ลำปาง-แพร่ และลำปาง-เชียงใหม่ ก็ลดจำนวนลงเหลือ 1-2 คันเท่านั้น เนื่องจากแต่ละรายต่างแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เพราะนอกจากจำนวนผู้โดยสารจะลดกว่าครึ่งคือเดิมนั่งได้ 11 คน ลดเหลือ 5-7 คนแล้ว ผู้โดยสารก็น้อยลงมากด้วย
ทั้งนี้ บริษัทเดินรถที่เหลืออยู่จะไม่มีการรับจองตั๋วล่วงหน้า นอกจากผู้โดยสารจะเข้ามาสอบถามและรอขึ้นรถเองที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเพราะต้องเช็กยอดจากต้นทางเชียงใหม่ก่อนหากที่นั่งเต็มก็ไม่สามารถขึ้นรถได้ หากว่างก็เดินทางได้ ประกอบกับยังไม่มั่นใจว่าทางบริษัทจะมีคำสั่งให้หยุดเดินรถเมื่อไหร่เนื่องจากในขณะนี้ขาดทุนทุกเที่ยว ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงรถทัวร์จากเดิมนั่งได้ 40 คน ต้องลดเหลือ 20 คน และผู้โดยสารไม่เต็มคัน
ผู้ประกอบการเดินรถระยะสั้นรถตู้มินิบัสเปิดเผยว่า ในการให้บริการ ณ วันนี้ยังคงพอมีลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องเดินทางอยู่ ดังนั้นจึงหยุดไม่ได้แม้จะขาดทุน บางวันวิ่งได้วันละเที่ยวและลูกค้านั่งไม่เต็มรถ ก็เช่นเดียวกับผู้ประกอบการแท็กซี่ ซึ่งยังคงมาจอดรอรับผู้โดยสารแต่เช้ามืด เผื่อว่าจะมีผู้โดยสารเหมาให้ไปส่งที่ต่างๆ ยอมรับว่าบางวันวิ่งได้เที่ยวเดียวได้เงินเพียงร้อยกว่าบาท แต่ก็มาทำหน้าที่เหมือนเดิม