ตราด - รวบแล้ว 1 ใน 2 คนร้ายควงอาก้าบุกปล้นร้าน 7-11 สาขาหน้า อบจ.ตราด อ้างเครียดทะเลาะแฟนสาวซ้ำอยากวัดใจเพื่อนจึงชวนกันลงมือ ด้าน ผบช.ภ.2 ชื่นชม ตร.ทำงานเร็ว เตรียมขยายผลหาผู้ค้าปืนในพื้นที่ พร้อมรีบตามตัวคนร้ายอีกราย
จากกรณีที่เกิดเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าบุกปล้นร้าน 7-11 เมื่อเวลา 01.05 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา จนได้เงินไปกว่า 9,000 บาท ก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รองผู้บังคับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายด้วยการใช้หลักฐานสำคัญเป็นภาพจากวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ
จนสามารถออกหมายจับ นายวรากร เกษร อายุ 30 ปี และนายณัฐภัทร หรือมิค สว่างไสว อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุและสามารถติดตามจับกุม 1 ใน 2 คนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็วนั้น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (23 มี.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายณัฐภัทร หรือมิค สว่างไสว อายุ 25 ปี ผู้ต้องหา หลังใช้เวลาติดตามตัวได้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.ต.ท.มนตรี ยังได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตราด ที่สามารถจับกุมคนร้ายพร้อมของกลางได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ขณะที่ นายวรากร หรือแจ็ค เกสร ผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวและคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนอาวุธปืนอาก้าที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นจะเร่งขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป ทั้งนี้ ยอมรับว่าในพื้นที่ จ.ตราด อาวุธปืนอาก้ายังคงมีการซื้อขายกันอย่างง่ายดาย ซึ่งจะต้องเร่งทำการกวาดล้างต่อไป
ด้าน นายณัฐภัทร หรือมิค ผู้ต้องหาสารภาพว่า ซื้ออาวุธปืนอาก้าพร้อมกระสุนปืนมาจากเพื่อนในราคา 18,000 บาท เพื่อใช้สำหรับเฝ้าสวน พร้อมอ้างว่าก่อนเกิดเหตุตนเองทะเลาะกับแฟนสาว จึงเกิดความเครียดและได้ไปนั่งพูดคุยกับ นายแจ็ค เพื่อระบายความในใจก่อนจะชักชวนกันไปก่อเหตุชิงทรัพย์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายณัฐภัทร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด เพื่อประกอบสำนวนคดีในการส่งฟ้องศาลต่อไป