จันทบุรี - ชายแดนจันทบุรีแทบแตก!! ชาวลาวแห่เข้าต่อวีซ่า ณ จุดผ่านแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน ที่ยังเปิดให้บริการเพียงจุดเดียวหลังพิษโควิด-19 ทำจุดผ่อนปรน และจุดผ่านแดนอื่นๆ ถูกสั่งปิด เช่นเดียวกับที่ลาว พม่า และมาเลเซียสั่งปิดประเทศ ซ้ำยังทำชาวกัมพูชาตกใจ แห่ตุนสินค้าจนรถแน่นพื้นที่
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่า คลาคล่ำไปด้วยชาวลาวจำนวนหลายพันคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และไม่สามารถต่อวีซ่าได้ จากการปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง สปป.ลาว มาเลเซีย และพม่า จนทำให้แรงงานเหล่านี้ต้องพากันมาต่อวีซ่า ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม
เบื้องต้น ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ทำการจัดระเบียบและคัดกรองแรงงานชาวลาว รวมทั้งชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้าที่ตลาดบ้านแหลม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีเชื้อโควิด-19 ผ่านเข้ามาบริเวณแนวชายแดนโดยไม่พบผู้มีเชื้อแต่อย่างใด
ดร.รัฐวิทย์ เผยว่า การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของแรงงานชาวลาวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่คืนวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตลาดบ้านแหลม ต้องระดมกำลังช่วยทำการคัดกรอง และอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ได้ประเมินแล้วว่าจะต้องมีชาวลาวเดินทางมายังจุดผ่านแดนแห่งนี้จำนวนมาก จึงได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ เป็นเพราะก่อนหน้านี้ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีคำสั่งให้ปิดการเข้าออกเป็นการชั่วคราว ทั้งที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จุดผ่อนปรนบ้านซับตารี และจุดผ่อนปรนบ้านสวนส้ม ใน อ.สอยดาว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และให้เหลือไว้เพียงจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมเพียงแห่งเดียว
จึงทำให้ชาวกัมพูชา มีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบเรื่องการสั่งซื้อสินค้าจากไทย จึงมีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างมากกว่าเดิมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังส่งผลให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นนับ 100 ล้านบาทภายในวันเดียว
ดร.รัฐวิทย์ ยังเผยอีกว่า การสั่งปิดทุกจุดผ่อนปรนและจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี ส่งผลต่อการซื้อสินค้าอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี จะได้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่อนผันให้ทุกจุดผ่อนปรน และอีก 1 จุดผ่านแดนถาวรสามารถเปิดซื้อขายสินค้าได้ตามปกติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวกัมพูชาในฐานะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่ให้มีการกำหนดช่วงเวลาในการค้าขายที่ชัดเจน