ประจวบคีรีขันธ์ - พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่น้ำหนักร่วม 100 กิโลกรัม ถูกคลื่นซัดขึ้นมาที่ชายหาดหัวดอน เขาตะเกียบ หัวหิน ลักษณะคล้ายเต่าตนุท้องแก่ที่พบที่ปากน้ำปราณ และปล่อยสู่ทะเลเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เบื้องต้น แจ้งศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดสมุทรสาคร นำซากไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
ค่ำวานนี้ (11 มี.ค.) หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน รับแจ้งจากชาวประมงบ้านหัวดอน พบซากเต่าทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาด บริเวณใกล้ท่าเรือเฟอร์รี่ หาดหัวดอน ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบซากเต่าทะเลขนาดใหญ่ ในลักษณะหงายท้อง กระดองใต้ท้องเริ่มหลุดร่อนบางส่วน เจ้าหน้าที่ได้พลิกซากเต่าเพื่อตรวจสอบ
เบื้องต้นพบว่าที่บริเวณหัวเริ่มเน่าเปื่อย ไม่พบบาดแผล กระดองด้านบนยังอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ วัดความกว้างของกระดองได้ 70 เซนติเมตร ความยาวตั้งแต่หัวถึงหาง 1.5 เมตร น้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม คาดว่าเต่าทะเลตัวนี้น่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน พร้อมกันนี้ ได้แจ้งไปยังศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาเคลื่อนย้ายซากเต่าไปเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย โดยในระหว่างนี้ มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานจะเคลื่อนย้ายซากเต่าไปเก็บรักษาเพื่อรอเจ้าหน้าที่มาเคลื่อนย้ายในวันนี้
ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ ทองสุกดี ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า จากการตรวจสอบจากภาพถ่าย พบว่า เต่าทะเลตัวนี้เป็นเต่าตนุ ยังไม่สามารถระบุอายุ เพศ และสาเหตุการตาย ต้องรอผลยืนยันจากสัตวแพทย์ สำหรับสาเหตุการตายของเต่า ส่วนใหญ่จะมีหลายสาเหตุด้วยกันคือ สภาพร่างกายไม่แข็งแรง ป่วยจนไม่สามารถหาอาหารกินได้ การกินขยะพลาสติกเข้าไปจนทำให้ร่างกายอ่อนแอ และอุบัติเหตุจากเครื่องมือประมง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวประมงปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี พบเต่าตนุท้องแก่ตัวใหญ่ ขนาดลำตัวใกล้เคียงกับเต่าตนุที่พบในวันนี้ คลานขึ้นมาที่ชายหาดในสภาพอ่อนแรง โชคดีที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ทช.ช่วยกันดูแลจนมันมีอาการดีขึ้น และฝังไมโครชิป ก่อนปล่อยสู่ทะเล ส่วนจะเป็นเต่าตนุตัวเดียวกันหรือไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ ทช.ตรวจสอบไมโครชิปให้ชัดเจนก่อน ซึ่งหากเป็นเต่าตนุตัวเดียวกันก็เป็นเรื่องน่าเศร้า และน่าเสียดายอย่างมาก
