เชียงใหม่ - ทนไม่ไหว..หนุ่มเจ้าของร้านอาหารโพสต์แฉว่อนโซเชียลฯ-ร้องตำรวจภาค 5..ตร.เชียงใหม่จับเมียลืมพกบัตรสีชมพูกับลูกชายระหว่างกลับจากงานแต่งญาติชายแดนแม่อาย อุ้มรีดเงินคาป้อม 3 แสน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ TS'Thanaphon Eagleline ได้แชร์คลิปและภาพเอกสารการร้องเรียนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยมีข้อความว่า เงินเดือนพวกคุณไม่พอใช้หรือครับ? ถึงได้จับเด็กและผู้หญิงมาข่มขู่! รีดไถ เป็นเงินสามแสนบาท สน.แม่อาย ครับ!!! โดยคลิปดังกล่าวพบถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมรถตำรวจ พูดภาษาเหนือ บอกให้หยุดถ่าย ถ้าถ่ายเดี๋ยวจะไม่ช่วยให้แล้วนะ!!! จนผู้คนในโซเชียลฯ เข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ทราบชื่อภายหลังคือ นายฐานะพล เสาวคนธ์ อายุ 45 ปี เปิดร้านอาหารอยู่ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่นำเรื่องดังกล่าวลงโซเชียลฯ เพื่อระบายความคับแค้นใจที่ครอบครัวตนถูกระบบราชการทำร้ายมากเกินไป โดยตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอุ้มภรรยาและลูกชายตนไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและรีดเงินไปถึง 3 แสนบาท
นางพิมพ์ชนก ปทุม อายุ 22 ปี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 63 ช่วงเวลาบ่ายโมง ตนและลูกชาย คือ ด.ช.อีเกิ้ล อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ซึ่งเป็นลูกของตนเองกับนายฐานะพล ได้เดินทางไปงานแต่งญาติที่บ้านโป่งงาย ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขากลับได้อาศัยนั่งรถคนในหมู่บ้านกลับ ระหว่างทางได้มีตำรวจหลายนายเข้าตรวจสอบรถและทำการตรวจบัตรประชาชน ตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติด
แต่ตนมีแค่บัตรสีชมพูหรือบัตรต่างด้าว และตนไม่ได้พกมา จึงถูกหนึ่งในเจ้าหน้าที่ขับรถพาตนและลูกชาย พร้อมคนในหมู่บ้านอีก 2 คน และเด็กสาวอีก 1 คน ขึ้นไปเจรจากันในป่าบนดอย ซึ่งตนก็โวยวายว่าทำไมไม่พาไปโรงพัก ต่อมาจึงมีการนำมาควบคุมไว้ที่ป้อมแม่สาว รวมผู้ใหญ่ 3 คน เด็ก 2 คน แจ้งข้อหา มีเรียกเงินจำนวน 1 แสน พอรู้ว่ามีเงินมีทองก็เรียกอีกรอบ 5 แสนบาท อ้างว่าเป็นผู้นำพาต่างด้าวให้ที่ซุกซ่อน
“ตอนแรกเอาบัตรไปกดก่อนจำนวน 8 หมื่นบาท แต่ก็ไม่พอ จึงพาฉันไปโอนให้เพิ่มอีก 6 หมื่นบาท ถ้าเงินไม่ครบไม่ยอมปล่อย โดยมีผู้หญิงมีอายุอ้างตัวเป็นแม่หลวงหรือผู้ใหญ่บ้านมาเคลียร์ อาสาออกเงินให้ก่อนอีก 1.6 แสนบาท จึงถูกปล่อยตัวตอนเวลา 2 ทุ่มของวันเดียวกัน คือวันที่ 3 ก.พ. และต่อมาแม่หลวงคนดังกล่าวจึงมาทวงทางชาวบ้าน และสามีฉันจึงโอนเงินไปให้อีก 1.6 แสนบาท รวมทั้งหมด 3 แสนบาท”
นายฐานะพลกล่าวเพิ่มว่า หลังเกิดเรื่องตนและภรรยาได้เดินทางไปร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ก็มีคนในพื้นที่หลายคนเป็นตัวแทนเข้ามาเจรจาขอคืนเงิน และขอไปถอนการร้องเรียนทุกอย่างให้หมด
ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์รายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีผู้ใหญ่ในพื้นที่ขอเป็นตัวแทนเจรจาเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะได้นำข้อมูลไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง หากพบการกระทำความผิดจริงก็จะมีการดำเนินการตามวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด โดยจะให้ความยุติธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย