ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเตรียมใช้พื้นที่บริเวณพุทธมณฑลอีสาน และกองร้อยอาสารักษาดินแดนขอนแก่น รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ อีก 2 แห่งเป็นสถานที่กักตัวแรงงานไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไวรัสโควิด-19 คาดรองรับได้ 1,000 คน
วันนี้ (5 มี.ค. 63) ภายหลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประชุมเตรียมมาตรการเร่งด่วนรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยได้มอบหมายให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เร่งประสานไปทุกจังหวัดให้หาพื้นที่ชุมชนที่เหมาะสมเพื่อใช้กักตัวแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเมืองแดกู และคยองซังเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ ที่จะต้องเข้ารับการกักตัวในพื้นที่ควบคุมโรคนั้น
ล่าสุด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นในนามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินตามข้อสั่งการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมาตรการป้องกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้แต่ละจังหวัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมใช้กักตัวแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้เพื่อควบคุมโรค
จังหวัดขอนแก่นได้เตรียมพื้นที่ใช้เป็นพื้นที่ควบคุมโรคไว้ 4 จุดหลัก ประกอบด้วย พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น, กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.ขอนแก่น, มณฑลทหารบกที่ 23 และสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คาดว่าจะสามารถรองรับการกักตัวเพื่อควบคุมโรคได้ประมาณ 1,000 คน
การจัดเตรียมสถานที่แต่ละแห่งรองรับกลุ่มเสี่ยงกลับภูมิลำเนาจะต้องเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและความเป็นอยู่ เป็นระบบและเป็นไปตามข้อกำหนดของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งสถานที่หลับนอน เช่น เตียงนอนจะต้องอยู่ห่างกันอย่างน้อย 2-3 เมตร ซึ่งอาจไม่ถึงขั้นต้องกั้นผนังห้องให้อยู่ เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณอย่างมหาศาล
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า แม้ขณะนี้พื้นที่ขอนแก่นยังไม่พบมีผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่จังหวัดขอนแก่นมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นจัดทำแผนเตรียมพร้อมและแผนเผชิญเหตุรับมือกรณีเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การป้องกันแจ้งให้ทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนทุกแห่ง ดำเนินการตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด โดยตั้งจุดคัดกรองโรคทางเดินหายใจแยกออกเป็นสัดส่วน
รายงานผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ต้องเป็นตามหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งกรณีที่มีโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดเกิดขึ้น โดยกำชับขั้นตอนเก็บสิ่งส่งตรวจของหน่วยบริการนั้นๆ ให้เป็นตามเงื่อนไขและแนวทางฯ ของจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งให้ข้อมูลเฝ้าระวังผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ของหน่วยบริการ ถ้ามีสัดส่วนเกินกว่า 5% จากผู้ป่วยนอกทั้งหมดให้พิจารณาเร่งค้นหากลุ่มผู้ป่วยที่มีโอกาสแพร่กระจายโรคในชุมชน
นับจากวันนี้ไปหากประชาชนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและเข้ามาในจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับการรายงานทันที ซึ่งจะตรวจคัดกรองมาตั้งแต่ประเทศต้นทาง จึงขอให้มั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะติดตามตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงและสถานการณ์ภาพรวม ป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างเต็มที่