ศรีสะเกษ - ผวาโควิด-19 หนัก ผู้ปกครอง นร.กลับมาจากไต้หวัน ผอ.ร.ร.อนุบาลดำรงราชานุสรณ์สั่งปิดเรียน 2 วัน ขณะ นอภ.กันทรลักษ์ ร่วมกับ รพ.สต.โคกเจริญ เร่งออกคัดกรองกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสโรคร่วม 11 ราย ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน
วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมยศ ภูสิงห์ ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ปกครองนักเรียนเป็นสุภาพสตรีของโรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ได้กลับมาจากประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีลูก 2 คนเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ปรากฏว่าได้ทำให้เกิดความวิตกกังวลในการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าวเป็นอย่างมากและข่าวได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเที่ยงของวันนี้ (4 มี.ค.) ปรากฏว่าบรรดาผู้ปกครองนักเรียนเกรงว่าลูกหลานของตนเองที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนจะติดเชื้อโรคด้วย ได้มารับเอาบุตรหลานของตนกลับไปบ้านแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งตนได้ประสานงานไปยัง รพ.กันทรลักษ์เพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ทราบว่ามีผู้ปกครองนักเรียนที่เดินทางมาจากประเทศไต้หวันจริงและมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัด ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างรอผลการตรวจที่แน่ชัดจากทางโรงพยาบาลกันทรลักษ์
นายสมยศกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน คณะครู และบุคลากร รวมถึงผู้ปกครองนักเรียน ดังนั้นจึงได้สั่งหยุดเรียนกรณีพิเศษ ในระหว่างวันที่ 5-6 มี.ค. 63 นี้ โดยคณะครูทุกคนจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติเพื่อร่วมกันทำการฉีดพ่นและทำความสะอาดอาคารเรียน ห้องเรียน และบริเวณโดยรอบ โรงเรียนจะเปิดทำการสอบปลายภาคเรียนระดับชั้นอนุบาล 2-3 ในวันที่ 9 มี.ค. สอบปลายภาคเรียนระดับชั้น ป.3-6 ในระหว่างวันที่ 9-10 มี.ค. 63 สอบมาตรฐานปลายปีระดับชั้น ป.2, ป.4 และ ป.5 ในวันที่ 11 มี.ค. 63 และยกเลิกงานปัจฉิมนิเทศนักเรียนชั้น ป.6
ขอฝากถึงผู้ปกครองนักเรียนทุกท่านว่า แม้ผลการตรวจสุภาพสตรีที่กลับมาจากประเทศไต้หวันที่ได้รับแจ้งจาก ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ออกมาแล้วว่าผลการตรวจสุภาพสตรีดังกล่าวเป็นลบ เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาไม่ได้ติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่อย่างใด ตนและคณะครูรวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาทุกคนของ โรงเรียนจะดูแลนักเรียนทุกคนที่เป็นบุตรหลานของผู้ปกครองทุกท่านอย่างดีที่สุด และขอให้ผู้ปกครองทุกท่านช่วยกันตรวจสอบข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีด้วย เพื่อเป็นการร่วมกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคนี้และจะได้ป้องกันการตื่นตระหนกตกใจของประชาชนชาว อ.กันทรลักษ์ด้วย
ทางด้าน นายปวิช รัตวาลย์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครอง ชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้มีวิทยุด่วนที่สุด ที่ ศก 0318/08 ลงวันที่ 4 มี.ค. 63 ถึงกำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน แจ้งแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยแจ้งว่า กรณีมีผู้ป่วยเข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง จำนวน 1 ราย เป็นหญิงอายุ 34 ปี อยู่บ้านโคกเจริญ หมู่ 6 ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้กลับจากการไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 63 โดยผ่านระบบการคัดกรองผู้เดินทาง ไม่มีไข้ และไม่ถูกกักไว้สังเกตอาการ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63 เวลาประมาณ 17.30 น ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ แพทย์ให้พักรักษาที่ห้องผู้ป่วยแยกโรค และเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว
ขณะนี้ทีม SRRT อ.กันทรลักษ์ ร่วมกับ รพ.สต.โคกเจริญ ได้ออกคัดกรองกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านผู้ป่วยพบว่ามีผู้สัมผัสโรคร่วม 11 ราย ได้วัดอุณหภูมิร่างกายและสอบถามอาการแล้วพบว่าไม่มีผู้มีอาการไข้ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเร็วหรือหายใจลำบาก และได้แนะนำให้สังเกตอาการตนเองควรอยู่แต่ในที่พักวัดไข้ตนเองด้วยปรอทวัดไข้ทุกวันจนครบ 14 วัน เน้นมาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใช้หน้ากากอนามัย หากมีอาการไข้ ไอจาม มีน้ำมูก ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และให้งดแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีความชัดเจนหรือไม่เป็นความจริงที่อาจจะสร้างความตื่นตระหนกให้คนในชุมชน และอาจมีความผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้
