ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รพ.สวนดอกตั้งโต๊ะแจงกรณีโพสต์ระบุหน้ากากอนามัยของโรงพยาบาลเหลือใช้ได้อีกแค่ 2 วัน ยอมรับในห้องผ่าตัดให้ใช้หน้ากากผ้าแทนเพื่อบริหารจัดการที่มีอยู่ 1.8 หมื่นชิ้นเอาไว้ใช้ในจุดเสี่ยงให้เพียงพอในภาวะไม่ปกติ
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งภาวะหน้ากากอนามัยสำหรับใช้สวมใส่ป้องกันตัวเองที่ขาดตลาด ซึ่งสร้างกังวลใจให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างมาก ปรากฏว่ายังคงมีกระแสข่าวลือที่ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมสถานการณ์สร้างความหวาดวิตกและตื่นตระหนกออกมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดพบผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า “ห้องผ่าตัด รพ.แห่งหนึ่งทางภาคเหนือที่ชื่อขึ้นต้นด้วยสวน..ลงท้ายด้วยดอก มี mask เหลือพอใช้อีก 2 วันจ้า หลังจากนี้จะใช้ mask ผ้าแล้ว ยุคมืดที่แท้ ไม่กันเลือด ไม่กันแม้กระทั่งละอองหูด กันแค่น้ำลายเราตกใส่ฟิลด์เวลาเมาท์ในเคสเท่านั้น ยุคมืดจริงๆ จ้าาาาา”
โพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ต่อจำนวนมาก สร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ที่ทราบข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงเย็นวานนี้ (4 มี.ค. 63) ที่ห้องประชุม บุญสม มาร์ติน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหาร ร่วมกันชี้แจงกรณีโพสต์ดังกล่าว
โดยระบุว่า ข้อมูลตามโพสต์ดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทั้งนี้ระบุว่าทางโรงพยาบาลยังมีหน้ากากอนามัยเหลือในคลังประมาณ 18,000 ชิ้น ซึ่งยังเพียงพอไว้ใช้สำหรับแพทย์ พยาบาล และบุคลาการ ในการปฏิบัติงานในจุดที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เพียงแต่ว่าต้องมีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี ซึ่งสมมติว่าในกรณีที่ไม่สามารถจัดหามาเพิ่มได้เลยยังเพียงพอใช้ได้อีก 5-7 วัน โดยในภาวะที่หน้ากากอนามัยขาดตลาดเช่นนี้ ถึงแม้ทางโรงพยาบาลจะมีงบประมาณในการจัดซื้อ แต่ทางผู้ผลิตไม่สามารถผลิตให้ได้อย่างที่ต้องการเนื่องจากความต้องการที่มีมากในช่วงนี้
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับการให้ใช้หน้ากากผ้าในห้องผ่าตัดนั้นยอมรับว่าเป็นความจริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ให้สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอ โดยการใช้หน้ากากผ้าในห้องผ่าตัดเนื่องจากพิจารณาแล้วว่าในห้องผ่าตัดเป็นจุดที่ปลอดเชื้อ และผู้เข้ารับการผ่าตัดผ่านการคัดกรองอย่างดีแล้วว่าปลอดเชื้อ จึงเก็บหน้ากากอนามัยเอาไว้ใช้สำหรับบุคลากรในการปฏิบัติงานในจุดอื่นที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่า ซึ่งไม่ได้หมายความเฉพาะแค่การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เท่านั้น แต่หมายรวมถึงการติดเชื้ออื่นๆ ด้วย
ส่วนโพสต์ดังกล่าวนั้น ขณะนี้ได้มีการลบออกไปแล้ว เบื้องต้นคาดว่าผู้โพสต์น่าจะเป็นบุคลากรของทางโรงพยาบาลเองที่อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากเดิมเคยใช้หน้ากากอนามัยในการผ่าตัดแต่ต่อมาต้องเปลี่ยนมาใช้หน้ากากผ้า ล่าสุดได้มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจอย่างละเอียดถึงเหตุผลความจำเป็นกับบุคลากรแล้ว ทั้งนี้คงไม่มีการสอบสวนติดตามหาตัวผู้โพสต์มาดำเนินการแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าอาจจะโพสต์ไปด้วยอารมณ์ แต่น่าจะชี้แจงทำความเข้าใจกันได้
