นครสวรรค์ - ทั้งตำรวจนักประดมน้ำ-กู้ภัยเมืองปากน้ำโพ ยังดำลงเจ้าพระยาคลำหาหลักฐานคดีอุ้มฆ่าพี่ผู้พิพากษาต่อเนื่อง ขณะที่ จนท.คุ้ยจุดทีมอุ้มชี้เป้าเผานั่งยาง พบทั้งชิ้นส่วนกะโหลก-กระดูก-แหวนรูปเต่า และวัตถุพยานรวม 28 ชิ้น
ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 67 ปี พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเมื่อคืนวานนี้ (24 ก.พ.) เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ร้างว่างเปล่าพื้นที่หมู่ 5 ต.นิคมเขาบ่อแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังได้รับแจ้งหนึ่งในทีมคนร้ายได้เปิดปากยอมให้การว่าได้นำร่างอันไร้วิญญาณของนายวีรชัยไปเผานั่งยางในพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งพบรอยจุดเผาไฟซึ่งพบว่ามีเศษซากกระดูก และเศษยางรถยนต์ รวมถึงยังพบแหวนทอง ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการนำวัตถุพยานที่พบกลับไปตรวจสอบว่าใช่ของนายวีรชัยหรือไม่นั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่หมู่ 5 ต.นิคมเขาบ่อแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จุดที่ทีมอุ้มยอมเปิดปากว่านำร่างของวีรชัยไปเผาอีกครั้ง พบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บหลักฐานทั้งหมดที่ตรวจพบตั้งแต่เมื่อคืน นำไปตรวจสอบยังส่วนกลางหมดแล้ว แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานในจุดนี้ถึง 28 รายการ เป็นเศษซากกระดูกส่วนหัวกะโหลก และส่วนอื่นๆ ที่ถูกไฟเผาไหม้ไม่หมด รวมถึงเศษยางรถยนต์ และแหวนทองคำรูปเต่าซึ่งถูกเผาบนแผ่นสังกะสีที่นำมารองพื้น
ส่วนที่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานตะเคียนเลื่อน เขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ สถานที่ที่ทีมอุ้มอ้างว่าได้นำโครงกระดูกของนายวีรชัยบางส่วนใส่ถุงปุ๋ย 3 ใบ โยนทิ้งลงแม่น้ำนั้น ทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากตำรวจน้ำ และทีมกู้ภัยนครสวรรค์ยังคงลงพื้นที่ทำงานเพื่อหาหลักฐานตามที่ทีมอุ้มกล่าวอ้างกันอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ย้ายจุดค้นหาห่างจากจุดเดิมของเมื่อวาน (24 ก.พ.) ไปประมาณ 200 เมตร
พ.ต.อ.ราม รสหอม ผกก.4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ปิดเผยแผนการค้นหาของวันนี้ว่า จะใช้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4 ทีมๆ ละ 2 คน ระดมกันค้นหาตามทางน้ำไหลไปให้ถึงบริเวณใต้สะพานตะเคียนเลื่อน และหากวันนี้ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ก็จะมีการค้นหาวนย้อนกลับไปที่จุดเดิมอย่างละเอียดอีกรอบ ซึ่งก็จะมีการลงน้ำงมค้นหาอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งให้ยกเลิก
นายสายชล หนองบัวขาว ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ และชอบมานั่งตกปลาในจุดที่กำลังมีการดำน้ำค้นหาอยู่เป็นประจำ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้นำเบ็ดลาวมาตกปลาเช่นเคย แต่วันนั้นในระหว่างที่วางเบ็ดตกปลา จู่ๆ ก็พบว่ามีถุงสีแดงมาเกี่ยวกับตะขอเบ็ด ตนก็รีบดึงคันเบ็ดขึ้นมาแกะถุงออกจากตะขอทิ้ง โดยไม่ได้เปิดดูว่าภายในถุงนั้นเป็นอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นถุงขยะธรรมดา จึงได้ทิ้งลงน้ำไป แล้วก็รีบเอาเบ็ดมาเกี่ยวเหยื่อตกปลาต่อทันที จนกระทั่งมาทราบว่ากำลังมีการค้นหาถุงสีแดงกันอยู่ ไม่แน่ใจว่าถุงที่มาเกี่ยวตะขอเบ็ดของตนนั้นจะใช่ถุงที่กำลังมีการระดมค้นหากันอยู่หรือไม่
ทั้งนี้ ในส่วนของบริเวณแม่น้ำปิง หน้าวัดไทรใต้ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ยังคงมีทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ นำเครื่องตรวจจับวัตถุโลหะ ลงงมค้นหาทรัพย์สินที่ยังหลงเหลือของผู้ตายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน หลังจากที่เมื่อวานนี้เริ่มมีความหวังเพิ่มมากขึ้น เพราะมีการพบโทรศัพท์มือถือที่มีการตรวจสอบเลขประจำเครื่องแล้วว่าเป็นของนายวีรชัยจริง
