xs
xsm
sm
md
lg

ศิลปินสาวน้อยป่วยหนักวาดภาพ ผบ.ตร.นำภารกิจโคราช ยกฮีโร่ในดวงใจหวังมอบถึงมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ฮีโร่ในดวงใจ! สาวน้อยป่วยหนักโรคพุ่มพวง สุดชื่นชม ผบ.ตร.นำปฏิบัติการภารกิจเสี่ยงตายที่ห้างเทอร์มินอล 21 ด้วยตัวเอง งัดความสามารถด้านศิลปะเขียนภาพยกย่องวีรบุรุษ ตั้งใจมอบให้ถึงมือ พบฝีมือไม่ธรรมดาสอบเข้าเรียน ม.ดังได้ แต่จำเป็นต้องพักการเรียนเนื่องจากป่วยต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน ครอบครัวแบกภาระค่าใช้จ่ายสูงลิบ


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า พบเด็กสาวคนหนึ่งที่ล้มป่วยหนักด้วยโรคไตและโรคหัวใจ ต้องรักษาตัวมานานกว่า 5 ปี รวมทั้งต้องหยุดพักการเรียนจากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งที่เพิ่งสอบเข้าเรียนได้ในปีการศึกษา 2560 และเริ่มเรียนไปได้เพียงไม่กี่วันเนื่องจากอาการป่วย

ล่าสุดเด็กสาวคนนี้ซึ่งมีความสามารถในเชิงศิลปะการวาดเขียน ได้เขียนภาพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่นำปฏิบัติการด้วยตัวเองกรณีเหตุการณ์ที่ห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ด้วยสีน้ำ ออกมาในแนวการ์ตูนสีสันสดใส สวยงาม พร้อมทั้งยังเขียนภาพ ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา ลูกชายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ร่วมปฏิบัติการด้วย โดยการเขียนภาพดังกล่าวเนื่องจากรู้สึกชื่นชม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่เป็นเสมือนฮีโร่ในสถานการณ์ครั้งนี้ และตั้งใจจะส่งมอบภาพดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย


จากการตรวจสอบพบว่า เด็กสาวคนดังกล่าว คือ น.ส.ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช หรือ “น้องปริม” อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวกรณีเหตุการณ์ที่ห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา รู้สึกชื่นชมและยกย่อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นอย่างยิ่งที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุด แต่ลงพื้นที่นำปฏิบัติภารกิจที่มีความเสี่ยงสูงด้วยตัวเองเพื่อปกป้องประชาชน จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนภาพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ โดยใช้ต้นแบบจากภาพข่าวถ่ายทอดออกมาในแนวการ์ตูนฮีโร่ ใช้เวลาในการเขียนภาพนี้จนเสร็จประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งค่อนข้างนานเพราะตัวเองป่วยหนักทำให้สภาพร่างกายอาจจะไม่ค่อยพร้อมเท่าใด แต่ก็พยายามเขียนจนเสร็จและตัวเองตั้งใจว่าจะมอบให้แก่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

สำหรับอาการป่วยของตัวเองนั้น “น้องปริม” บอกว่า เริ่มป่วยมานานกว่า 5 ปี ด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ทำให้เกิดทั้งอาการไตวาย จนต้องเข้ารับการรักษาตัวด้วยการฟอกไตเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจและจำเป็นจะต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยเมื่อปี 2560 ตัวเองสามารถสอบเข้าเรียนคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ตามความใฝ่ฝันของตัวเองที่ชื่นชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มเรียนไปแล้วได้เพียง 2 วัน แต่เกิดล้มป่วยหนักด้วยอาการไตวาย ทำให้ต้องหยุดพักการเรียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อรักษาชีวิต


ทั้งนี้ จากการล้มป่วยของตัวเองทำให้ครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะต้องรักษาตัวต่อเนื่องมาตลอดหลายปี และบางครั้งที่อาการทรุดหนักเคยต้องเสียค่ารักษาครั้งละหลายแสนบาทด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดที่ผู้เป็นพ่อที่เคยเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ต้องมาล้มป่วยไปอีกคน ทำให้ผู้เป็นแม่ที่เคยมีหน้าที่รักคือการดูแลตัวเอง ต้องรับภาระเพิ่มอีกทั้งการดูแลพ่อและหารายได้นำมาใช้จ่าย ทำให้เวลานี้ตัวเองตัดสินใจจะใช้ความรู้ความสามารถทางด้านศิลปะที่พอจะมีอยู่บ้างเขียนภาพขายผ่านทางเพจชื่อ “Mom&Me Happiness Inside” เนื่องจากหวังจะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ได้บ้าง

ขณะที่นางอักขรา ตระกูลดาบทอง อายุ 44 ปี แม่ของน้องปริม บอกว่า มีลูก 2 คน น้องปริมเป็นลูกสาวคนโต และมีน้องชายอีก 1 คน โดยน้องปริมมีความชื่นชอบและมีความสามารถศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ชนะการประกวดและได้รับประกาศนียบัตรจำนวนมาก โดยเริ่มป่วยเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว และรักษาตัวเรื่อยมา แต่เมื่อปี 2560 ยังสามารถสอบเข้าเรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ผลงานศิลปะที่ส่งให้ทางคณะพิจารณาคัดเลือกเข้าเรียน อย่างไรก็ตาม ไปเรียนได้เพียง 2 วันเท่านั้นก็ล้มป่วยหนัก ทั้งไตวาย และน้ำท่วมปอด จนต้องหยุดพักการเรียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของ “น้องปริม” นั้น นางอักขราบอกว่า แม้ว่าจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินอีกจำนวนหนึ่งที่สูงพอสมควร โดยที่ผ่านมาสามีของตัวเองจะเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวทั้งหมด ส่วนตัวเองทำหน้าที่ดูแลลูกๆ โดยเฉพาะ “น้องปริม” ที่ป่วย และต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 3 วัน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสามีล้มป่วยหนักอีกคน ตัวเองจึงต้องทำหน้าที่เพิ่ม รวมทั้งการหารายได้ด้วย ยอมรับว่าลำบากพอสมควรและบางครั้งจำเป็นต้องนำทรัพย์สินที่เก็บไว้ออกขาย โดยน้องปริมก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการเขียนภาพขาย ซึ่งตัวเองรู้สึกภูมิใจในตัวลูกมากและรับปากว่าจะดูแลลูกอย่างดีที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม




















กำลังโหลดความคิดเห็น