ระยอง - ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน นำคณะลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามปัญหาแรงงานหลังเจเนอรัลมอเตอร์ (ประเทศไทย) ประกาศหยุดผลิตและขายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยสิ้นปีนี้ เบื้องต้น กำหนด 3 มาตรการช่วยเหลือแรงงานรวม 1,500 คน
จากกรณีที่บริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม ได้ประกาศที่จะหยุดการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต พร้อมหยุดการผลิตในประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2563 ซึ่งจะทำให้มีกลุ่มแรงงานต้องตกงานเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (18 ก.พ.) ดร.จักร์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสุชาติ พรวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน และนางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ระยอง พร้อมประชุมร่วมผู้บริหาร บริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ระยอง ที่ห้องประชุมสำนักงานจัดหางานจังหวัดระยอง ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
เพื่อหาแนวทางเยียวยาช่วยเหลือพนักงานในโรงงานผลิตรถยนต์ใน จ.ระยอง ที่มีจำนวน 1,500 คน
ดร.จักร์ เผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญต่อเรื่องการเลิกจ้างพนักงาน จึงกำหนดมาตรการในการดูแล 3 แนวทางหลัก คือ 1.ผู้เลิกจ้างจะดูแลคุ้มครองแรงงานเมื่อถูกเลิกจ้างตามสิทธิประโยชน์ที่ต้องได้รับเต็มจำนวน ซึ่ง บริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันที่จะทำตามกฎหมาย
พร้อมรับปากว่าจะดูแลพนักงานอย่างเต็มที่และเยียวยามากกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยจะให้เงินชดเชยเป็นโบนัสก้อนสุดท้าย
2.รัฐบาลจะหางานให้แก่แรงงานที่ว่างงาน โดยมอบหมายให้กรมการจัดหางาน ประสานไปยังบริษัทต่างๆ ว่ามีที่ใดต้องการแรงงานอีกหรือไม่ โดยเฉพาะบริษัทที่ดำเนิยงานเกี่ยวกับยานยนต์ ซึ่งในส่วนของพื้นที่ EEC ยังมีตำแหน่งงานว่างกว่า 2,500 ตำแหน่ง
และ 3.มาตรการสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานอิสระ ซึ่งสถาบันฝีมือแรงงานจะเปิดอบรมอาชีพอิสระและยังจะจัดให้มีเงินยืมสำหรับลงทุนอีกด้วย
"สำหรับขวัญและกำลังใจของพนักงานขณะนี้เท่าที่ทราบไม่ได้ตื่นตระหนกกับการถูกเลิกจ้าง เนื่องจากเข้าใจสภาพเศรษฐกิจโลก ซึ่งที่ผ่านมา มีการเลิกจ้างให้เห็นเป็นบางส่วนแล้ว ที่สำคัญในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการปิดกิจการ แต่เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนนายจ้าง และพนักงานทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาเข้าทำงานต่อ เพียงแต่ต้องดูในเรื่องของทักษะฝีมือ ซึ่งกระทรวงแรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลือพนักงานเต็มที่" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว