อุบลราชธานี - จังหวัดอุบลราชธานีรณรงค์สู้ภัยแล้ง ไฟป่า และฝุ่น PM 2.5 หลังเริ่มพบมีการเผาไร่นาและป่าล่าสัตว์ ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขณะลำน้ำสาขาส่วนใหญ่มีน้ำลดลง จึงจัดเตรียมกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนในหน้าแล้งนี้
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 22 กองบินที่ 21 แขวงทางหลวงจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยประจำอำเภอ พร้อมจิตอาสาพระราชทาน ได้ปล่อยขบวนรณรงค์รับมือปัญหาภัยแล้ง การเผาป่า และตรวจจับรถที่ปล่อยควันดำ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่สองข้างถนนสายสำคัญ ตามป่าชุมชน ตามไร่นา เพื่อประชาสัมพันธ์ไม่ให้เกษตรกรเผาตอซัง เพราะทำให้เกิดไฟป่าลุกลาม รวมทั้งเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมกับรับมือปัญหาภัยแล้งตามพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ
นายสฤษดิ์กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งของจังหวัดอุบลราชธานี แม้ขณะนี้ยังไม่รุนแรงแต่มีการจัดชุดเฝ้าระวังช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ เพราะแม่น้ำหลายสายมีปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ และคาดจะเริ่มเกิดสถานการณ์ภัยแล้งตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนกว่าถึงฤดูฝน เมื่อพบพื้นที่ใดขาดแคลนน้ำจะส่งรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายช่วยเหลือได้ทัน
ขณะเดียวกัน หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วใช้ระงับไฟป่า เพราะเมื่อเกิดไฟป่าขึ้นตามอำเภอชายแดนที่มีป่าหนาแน่นจะทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยอำเภอที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ อำเภอน้ำยืน ที่พบมีการเผาป่าล่าสัตว์ และเผาไร่นา เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก
ส่วนอำเภอเมืองฯ เกิดฝุ่นละอองจากรถที่แล่นตามท้องถนน สำนักงานขนส่งจะได้ทำการตรวจวัดควันดำท่อไอเสียจากรถเพื่อลดปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก และจะได้ร่วมกับจิตอาสาทำความสะอาดตามถนน เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นนี้ด้วย
สำหรับอำเภอเมืองอุบลราชธานี วัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 วันนี้ ได้ 68 ไมโครกรัม ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่เมื่อถึงฤดูแล้งคาดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จะสูงขึ้นและเป็นปัญหาต่อสุขภาพของประชาชนในอนาคต จึงต้องดำเนินการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน