พิจิตร - ตามความเชื่อประตูนรก-สวรรค์เปิด..มูลนิธิพิจิตรฯ เปิดสุสานจ้างสายหนังตั้งแต่จอฉายหนังกลางแปลงให้ดวงวิญญาณ 330 หลุมได้ดูในวันตรุษจีนทุกปีตลอด 55 ปี ขณะที่คนฉายบอกเคยเจอดีมาแล้วเหมือนกัน
ความเชื่อเกี่ยวกับวันชิวอิกหรือวันเที่ยว ที่เล่าสืบทอดต่อกันมาว่า ประตูนรก-สวรรค์จะเปิดเพื่อปล่อยให้ดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้มารับส่วนกุศลหรือส่วนบุญที่ลูกหลานประกอบพิธีเซ่นไหว้ ดังนั้น กรรมการของมูลนิธิพิจิตรสามัคคีฯ ที่ดูแลสุสานวัดมูลเหล็ก บ้านดงชะพลู ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร จึงได้จัดการฉายหนังกลางแปลงให้ผีดูต่อเนื่องมา 55 ปี
นายอนุศิษฐ์ หลิมศิริวงษ์ รองประธานมูลนิธิพิจิตรสามัคคีฯ ฝ่ายสุสาน เล่าให้ฟังว่า ได้ฉายหนังกลางแปลงมอบความบันเทิงให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวจีน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่ล่วงลับไปแล้ว และฝังอยู่ที่สุสานแห่งนี้จำนวน 330 หลุม มาตั้งแต่ พ.ศ. 2508 นับถึงวันนี้ 55 ปีเต็ม โดยคืนวันชิวอิกปีนี้ได้ฉายภาพยนตร์ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ เรื่องโป่งเซียง ซึ่งเป็นภาพยนตร์สำหรับไหว้เจ้าที่และวิญญาณบรรพบุรุษ เรื่องที่สองคือเรื่องเจ้าแม่ตะเคียน และเรื่องโปงลางสะดิ้ง ซึ่งเป็นหนังผีแนวตลกขบขัน เป็นเรื่องที่สาม
ด้านนายบุญเชิด คุ่ยคร้าม เจ้าของและผู้จัดการบุญเชิดภาพยนตร์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาฉายภาพยนตร์ให้กับวิญญาณบรรพบุรุษชมมากว่า 50 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นลูกน้อง จนถึงวันนี้มีทีมงานเป็นของตนเอง แต่ยุคนี้หนังกลางแปลงกำลังจะสูญหายจากงานวัด งานประเพณี รวมถึงอาชีพคนฉายหนังกลางแปลงก็ค่อยๆ เลิกกันไป แต่ด้วยใจรักตนจึงยังคงทำอาชีพนี้อยู่ ส่วนการมาฉายหนังกลางแปลงให้ผีดูที่มูลนิธิพิจิตรสามัคคีแห่งนี้ได้รับค่าจ้างไม่มาก พอเป็นเบี้ยเลี้ยงลูกน้องและพออยู่ได้ก็พึงพอใจแล้ว
สำหรับการฉายหนังกลางแปลงให้ผีดูเริ่มฉายหลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าทันทีและต่อเนื่อง 3 เรื่อง กว่าจะจบก็เกือบเที่ยงคืน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างวังเวง ผู้ชมที่ใจกล้า ใจถึง ที่นั่งดูอยู่เป็นเพื่อนกันก็มีเพียงกรรมการของมูลนิธิพิจิตรสามัคคีฯ และคนเฝ้าสุสาน 4-5 คนเท่านั้น
นายบุญเชิดเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ชวนขนหัวลุกขนพองสยองเกล้าระหว่างการฉายหนังให้ผีดูว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนตนก็มาตั้งเครื่องฉายหนังแบบนี้ วันนั้นเป็นคืนเดือนหงาย เริ่มพลบค่ำจู่ๆ ก็ปรากฏร่างชายชาวจีนสูงอายุลักษณะเหมือนอาแปะแก่ๆ นุ่งกางเกงขาก๊วย ใส่เสื้อคอกลมสีขาวแบบคนจีน โผล่มายืนข้างๆตนที่กำลังใส่ฟิล์มจะฉายหนัง
ตอนนั้นจำได้ว่าเขามาชวนคุยถามว่าวันนี้ฉายหนังเรื่องอะไรบ้าง ตนก็ตอบไปว่าฉายหนัง 3 เรื่อง ส่วนเป็นเรื่องอะไรนั้นจำไม่ได้แล้ว ขณะพูดคุยอยู่นั้นตนก็ก้มหน้าก้มตาอยู่กับเครื่องฉาย พอสิ้นเสียงของการพูดคุย ตนจึงเงยหน้าขึ้นมา ก็ปรากฏว่าอาแปะคนดังกล่าวหายวับไปกับตา ทำเอาขนหัวลุกแต่ไม่กล้าเล่าเรื่องราวลี้ลับที่ได้พบเจอในสุสานแห่งนี้ให้ลูกน้องฟัง