ตราด - เผยเทคนิคพิชิตแชมป์โลก 2 สมัย ทีมแกะสลักหิมะวิทยาลัยสารพัดช่างตราด เก็บตัว 3 เดือน นั่งสมาธิ ซ้อมกับก้อนน้ำแข็งไม่มีวันหยุด ลั่นปีหน้ารักษาแชมป์สุดความสามารถ
หลังจากที่ทีมแชมป์แกะสลักหิมะวิทยาลัยสารพัดช่างตราด สามารถคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 และยังคว้ารางวัลเทคนิคยอดเยี่ยมได้เพิ่มอีก 1 รางวัล จากการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ (12th International Collegiate Snow Sculpture Contwst 2020) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4-7 ม.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลาง 55 ทีมจากทั่วโลกที่เข้าร่วมการแข่งขันภายใต้อุณหภูมิหนาวจัดติดลบกว่า 20 องศา
วันนี้ทีมแชมป์แกะสลักหิมะวิทยาลัยสารพัดช่างตราด ที่ประกอบด้วย นายธวัชชัย สนธิพิณ หัวหน้าทีม นายชโยทิต สุขสวัสดิ์ น.ส.น้ำฝน จันทร์จรูญ และ น.ส.พรรณนิภา นามวิชัย นักศึกษาแผนกการโรงแรม พร้อมด้วยนางรุ่งนภา อุดมชลปราการ นายเกริกไกร นนทลักษณ์ อาจารย์แผนกการโรงแรม และนายชยกร กุลธวัชชุลิตา ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ไม่เพียงแต่จะอยู่ในความสนใจของคนไทยทั้งประเทศ
แต่ยังได้รับคำชื่นชมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองและครอบครัว รวมถึงชาว จ.ตราด วิทยาลัยสารพัดช่างตราด และประเทศไทย
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ยังได้นำทีมแชมป์ร่วมแกะสลักน้ำแข็งโชว์ในงานวันเด็กแห่งชาติ 2563 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กไทย และยังมีคิวให้สัมภาษณ์กับรายการต่างๆ นานเป็นสัปดาห์อีกด้วย
โดยทีมแกะสลักหิมะวิทยาลัยสารพัดช่างตราด ได้โชว์เทคนิคการแกะสลักหิมะที่มีความสวยงามแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นรูปหงส์ ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ประเทศไทย ส่วนที่ 2 รูปมังกร สัญลักษณ์ของประเทศจีน และส่วนที่ 3 ดอกบัว ที่มีลวดลายสวยงามแบบไทยสื่อความหมายถึงวัฒนธรรมความเป็นไทย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รัก ยืน ยาว” ที่สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนที่ยาวนานถึง 70 ปี จนเป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก
นางรุ่งนภา อุดมชลปราการ อาจารย์แผนกการโรงแรม เผยว่า ดีใจที่วิทยาลัย ทำให้คนตราดมีความสุข และไม่คาดคิดว่าชาวตราดจะให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อเดินทางกลับถึงบ้านเกิด ยืนยันว่าในปีหน้าจะขอป้องกันแชมป์อย่างสุดความสามารถแม้จะมีความกดดันเพิ่มขึ้นก็ตาม
“ก่อนเดินทางไปแข่งขัน นักศึกษาและทีมงานต้องเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมที่วิทยาลัยนานกว่า 3 เดือน โดยรูปแบบการฝึกซ้อมจะแบ่งให้นักศึกษาทั้ง 4 คน คิดชิ้นงานร่วมกับอาจารย์ ก่อนทดลองแกะสลักจากโฟมโอเอซิสเพื่อให้รู้ตำแหน่งและรายละเอียดทุกส่วนของชิ้นงาน จากนั้นจะใช้น้ำแข็งก้อนประมาณ 5-6 ก้อนลองแกะสลักจริงสลับกับโฟมโอเอซิส โดยจะฝึกซ้อมเช่นนี้เป็นประจำทุกวันหลังเลิกเรียน”
พร้อมบอกอีกว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่วิทยาลัยสารพัดช่างตราด สาขาการโรงแรม ทำให้คนตราดมีความสุข และรู้สึกคุ้มค่ากับการฝึกซ้อมและการทุ่มเทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ นายธวัชชัย สนธิพิณ หัวหน้าทีม กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างกดดันที่ต้องเดินทางไปแข่งขันในฐานะแชมป์ แต่ด้วยการฝึกซ้อมนานกว่า 3 เดือน ทำให้คลายกังวล ส่วนชิ้นงานในปีนี้ถือว่ามีความละเอียดมากโดยเฉพาะรูปหงส์และมังกร ที่เชื่อว่าเป็นจุดที่ทำให้ได้คะแนนมากที่สุด ส่วนในปีหน้าจะป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ยังไม่คาดหวัง แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ด้าน น.ส.น้ำฝน จันทร์จรูญ บอกว่า การได้แชมป์เป็นสมัยที่ 2 จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษารุ่นน้องได้เป็นอย่างดี ส่วนอุปสรรคในการแข่งขันคือสภาพอากาศที่ติดลบกว่า 20 องศา ทำให้ทุกคนต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
“การฝึกซ้อมกับการแข่งจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการซ้อมคือการแกะสลักน้ำแข็งและโฟม ส่วนการแข่งขันจริงใช้หิมะทั้งหมด ที่สำคัญหิมะมีความนิ่มกว่าน้ำแข็งและโฟม ประกอบกับการแข่งขันเริ่มตั้งแต่เช้าจนถึง 2 ทุ่มเป็นเวลา 3 วัน และชิ้นงานที่แกะสลักมีความสูง 4 เมตร กว้าง 4 เมตร จึงทำให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก และในวันนี้รางวัลชนะเลิศก็เป็นของเด็กตราด อย่างที่ตั้งใจ” น.ส.น้ำฝน กล่าว
ดร.ประดิษฐ ฮกทา ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างตราด เผยว่า ตลอดระยะเวลาการเก็บตัว วิทยาลัยจะดูแลนักศึกษาและอาจารย์ทุกคนเป็นอย่างดี โดยทุกเช้าจะจัดให้มีการออกกำลังกายเพื่อเตรียมร่างกายให้มีความแข็งแกร่งสามารถสู้กับอากาศที่หนาวเย็นได้ จากนั้นจะให้นักศึกษาได้เข้าเรียนตามปกติโดยจะใช้เวลาช่วงเย็นในการฝึกซ้อมแกะสลักจากก้อนน้ำแข็งจริง
“ซึ่งจะเป็นไปตามโปรมแกรมที่วางไว้เช่นนี้ทุกวัน รวมทั้งยังฝึกให้นั่งสมาธิเพื่อให้เกิดสมาธิระหว่างการทำงาน และลดแรงกดดันในเรื่องต่างๆ โดยเชื่อว่าหากนักศึกษาเกิดสมาธิที่แน่วแน่ก็จะสามารถทำผลงานได้ดีและนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติ และสถาบัน รวมทั้งตัวของนักศึกษาเอง” ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างตราด กล่าว