เชียงใหม่/ลำปาง - สภาพอากาศภาคเหนือส่วนใหญ่อุณหภูมิลดลง มีอากาศเย็นเกือบทุกพื้นที่โดยเฉพาะบนยอดดอยต่ำกว่า 10 องศา และพื้นที่ส่วนใหญ่ผจญปัญหาหมอกควันไฟป่าหนาทึบ จิตอาสาแนะเลิกนโยบายชิงเผาเพราะเป็นต้นเหตุไฟป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศวันนี้ (13 ม.ค. 63) ว่า ภาคเหนือรวมทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง ทั้งนี้เป็นผลมาจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนระลอกใหม่ได้แผ่เสริมเข้าปกคลุมภาคเหนือ ซึ่งจะส่งผลให้ในช่วงระหว่างวันที่ 13-18 มกราคม 2563 พื้นที่ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นลง 2-3 องศาเซลเซียส และจะหนาวเย็นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งวันพบว่ามีอากาศที่หนาวเย็นลง อุณหภูมิพื้นราบในตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงเช้าวัดได้ 14-15 องศาเซลเซียส ขณะที่บนเทือกเขา และยอดดอยมีอากาศหนาวจัด โดยที่ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์รายงานสภาพที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานวัดได้ 5 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม พบว่าปัญหาเรื่องของหมอกควันจากไฟป่า และการเผา เนื่องจากมวลอากาศเย็นได้กดทับชั้นบรรยากาศให้ต่ำลง ทำให้ฝุ่นควันเกิดการสะสมตัวในสภาพอากาศ ประกอบกับพบว่าเริ่มมีการเผาพื้นที่การเกษตร และปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นส่งผลให้หลายจังหวัดค่ามลพิษ โดยเฉพาะค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ทั้งที่จังหวัดแพร่ ตาก ลำพูน ลำปาง และเชียงราย มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายแล้ว
โดยที่จังหวัดลำปางแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นลงแต่ทว่ากลับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟขาวโพลนไปทั้งเมือง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษก็ได้แจ้งว่า 3 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พุ่งทะลุเป็นสีแดงแล้ว หลังจากเกินค่ามาตราฐาน 4 สถานีติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ขณะที่หน่วยงานและเครือข่ายประชาชนจิตอาสาอื่นๆ ที่ไม่สามารถขึ้นไปร่วมดับไฟในป่าหรือบนภูเขาได้ ต่างเร่งช่วยกันทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้ามาในเขตพื้นที่ป่าชั้นในได้
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ไฟลุกลามไหม้ป่าได้มีจิตอาสาดับไฟป่าบางส่วนที่ออกมาเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของการแก้ไขปัญหาไฟป่าว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายบริหารเชื้อเพลิง หรือการชิงเผา เพราะเห็นว่าการที่เกษตรกรชิงเผาในพื้นที่การเกษตรทำให้ไฟไหม้ลุกลามเข้าไปในป่าเหมือนที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งนโยบายกับการเกิดขึ้นจริงสวนทางกัน เพราะคนที่เผาไม่สามารถบริหารจัดการหรือควบคุมได้จริง จึงอยากให้ยกเลิกนโยบายการบริหารเชื้อเพลิงดังกล่าว
ขณะที่ศูนย์บัญชาการควบคุมป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าลำปางได้มีการสั่งการผ่านไลน์ศูนย์ War Room ไฟป่า มอบแนวทางการทำงานในวันนี้ คือ ขอให้ศูนย์ฯ อำเภอ พิจารณาสั่งการให้ทุก อปท. และหน่วยที่มีรถบรรทุกน้ำทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นในท้องที่ตนเอง ให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข (อสม.) เพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจขอความร่วมมือประชาชนงดเผาเด็ดขาด