ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ภัยแล้งส่งผลกระทบรุนแรงบานปลาย เกษตรกรเลี้ยงปลากระชังลำน้ำพองกว่า 3,000 กระชังปาดน้ำตารื้อกระชังขึ้นเก็บหลังน้ำพองแห้งเกินจะฝืนเลี้ยง ต้องหาอาชีพใหม่หาเงินใช้หนี้ ขณะที่พ่อค้าปลาต้องซื้อปลาเลี้ยงเขื่อนลำปาวขายแทน
ปัญหาภัยแล้งกำลังคุกคามหลายพื้นที่ในทุกภูมิภาคและทวีความรุนแรงเป็นวงกว้าง เกษตรกรเป็นอาชีพที่ได้รับผลกระทบหนักสุด พืชผักไม่สามารถปลูกได้ แม้แต่นาปรังก็ต้องหยุดแล้วหันไปเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน อีกอาชีพหนึ่งที่ต้องหยุดชั่วคราวเช่นกันคือการเลี้ยงปลากระชังตามลำน้ำ ล่าสุดชาวบ้านเลี้ยงกระชังในลำน้ำพอง จ.ขอนแก่นทยอยยกกระชังขึ้นเก็บ ระดับน้ำเหลือน้อยเกินที่จะเลี้ยงปลาได้
นายสุรัตน์ จันทาศรีกา ผู้ใหญ่บ้านดงพอง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ด้วยภาวะความแห้งแล้ง น้ำในลำน้ำพองแห้งอย่างรวดเร็ว ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังเขตพื้นที่อำเภอน้ำพอง และอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นได้ตัดสินใจยกเลิกการเลี้ยงปลาทั้งหมดรวมกว่า 3,000 กระชัง ต่างเก็บกระชังปลาขึ้นจากน้ำทั้งหมดแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะมีโอกาสได้เลี้ยงปลากระชังกันอีก
นายสุรัตน์บอกอีกว่า จุดบริเวณที่เคยเลี้ยงปลาในกระชัง ขณะนี้ถูกปกคลุมไปด้วยผักตบชวาหนาเป็นบริเวณกว้างยาวกว่า 5 กิโลเมตร ปริมาณน้ำที่น้อยและไม่มีการหมุนเวียนนั้นทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ชาวบ้านที่เคยมีอาชีพรับซื้อปลากระชังละแวกอำเภอน้ำพองส่งขายตลาดเองก็เดือดร้อน ต้องไปซื้อปลานิลที่เลี้ยงในเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์มาขายในพื้นที่ขอนแก่นแทน
“ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านแถบนี้เป็นอย่างมาก เมื่อเลี้ยงปลากระชังไม่ได้ก็ขาดรายได้ หาอาชีพอื่นทำแทนทำเสริมก็ยาก” นายสุรัตน์กล่าว และบอกอีกว่า
ชาวบ้านหลายครัวเรือนต้องออกไปหารับจ้างทั่วไป บางส่วนก็ปลูกผักที่ใช้น้ำน้อยแก้ขัดไปก่อนเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและใช้หนี้ใช้จ่ายในครัวเรือน เกษตรกรที่ทำอาชีพเลี้ยงปลากระชังน้ำพองบางเจ้าเป็นหนี้ถึงหลักล้านบาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยียวยา หาอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะปีนี้ภัยแล้งรุนแรงมากเกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างหนัก
