อุบลราชธานี - รถตู้หลวงพ่อสุพัฒน์ แสงเพชร เจ้าอาวาสวัดหนองขี้เหล็ก ต.โนนสวรรค์ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี คนขับหลับในเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางหน้าศาลปกครอง บาดเจ็บ 3 ราย หลวงพ่อสาหัสขาถูกเหล็กบาดเกือบขาด
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ร.ต.ท.กานต์ธีรา ชาญพนา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนต้นไม้ข้างทางถนนแจ้งสนิท ฝั่งขาเข้า หน้าศาลปกครองอุบลราชธานี ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถหลายราย จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี หน่วยกู้ชีพคุณธรรมนำรถพยาบาลและอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ
ถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งเยื้องหน้าศาลปกครองอุบลราชธานี พบรถตู้ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน นข 6428 อุบลราชธานี เสียหลังชนต้นไม้ข้างทางจนขาด 2 ท่อน มี ส.อ.ทรงเดช ตาแสง อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บตามลำตัวเล็กน้อย
ส่วนบริเวณที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับพบหลวงพ่อสุพัฒน์ แสงเพชร อายุ 62 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองขี้เหล็ก ต.โนนสวรรค์ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ถูกอัดก๊อปปี้ติดคอนโซลหน้ารถ และหน้าแข้งด้านซ้าย ถูกเหล็กของรถตู้บาดจนขาหวิดขาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถประมาณ 10 นาที เพื่อดึงเอาตัวหลวงพ่อที่อยู่ออกจากรถนำตัวส่งให้แพทย์โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ทำการรักษา เบื้องต้นมีอาการสาหัสจากบาดแผล แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อว่านายอนุวัฒน์ ไพศาล อายุ 38 ปี เป็นผู้ติดตามหลวงพ่อสุพัฒน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกตามลำตัวอาการไม่หนักมาก
จากการสอบถาม ส.อ.ทรงเดช คนขับทราบว่า ตนเองพร้อมด้วยหลวงพ่อสุพัฒน์ และผู้ติดตาม ได้ขับรถออกจากวัดในอำเภอนาจะหลวยไปส่งพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่จังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังจากอยู่ทำธุระพักใหญ่ ก็ได้ขับรถมุ่งหน้ากลับวัดในอำเภอนาจะหลวย เมื่อรถแล่นมาถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นทางโค้ง ส.อ.ทรงเดชเกิดอาการวูบหลับในจากอาการเมื่อยล้าจากการขับรถเป็นระยะทางไปกลับหลายร้อยกิโลเมตร มารู้สึกตัวอีกทีรถก็ได้พุ่งตกจากถนนพุ่งชนต้นไม้ข้างทางจนหลวงพ่อได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ส.อ.ทรงเดช เป็น 0 จึงได้ทำการสอบปากคำไว้เบื้องต้น และจะมาให้ปากคำอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
สำหรับตรงบริเวณดังกล่าวมักมีรถเสียหลักตกลงไปข้างทางเนื่องจากก่อนถึงจุดดังกล่าวจะเป็นทางตรงของถนน 2 ช่องจราจรยาวมาตลอดแนว เมื่อมาถึงจุดดังกล่าวจะเป็นโค้งหากไม่ระวังทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง