เพชรบุรี - เกิดเหตุเพลิงไหม้ไร่อ้อยลุกลามเสียหายนับ 10 ไร่ พบรถ จยย.ถูกเผากลางไร่อ้อย คาดเป็นรถที่ถูกขโมยมา
วันนี้ (6 ม.ค.) ร.ต.อ.ประวิทย์ อ้อยแดง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ไร่อ้อยและป่าต้นสน ของชาวบ้านโปร่งแย้ ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิง อบต.หนองพลับ อบต.ไร่ใหม่พัฒนา พร้อมด้วยชาวบ้านโปร่งแย้ ช่วยกันดับเพลิงไม่ให้ลุกลาม
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ป่าอ้อย ป่าต้นสน และสวนสับปะรดของชาวบ้าน อย่างรุนแรงขยายเป็นบริเวณกว้างได้รับความเสียหาย และกำลังลุกลามเข้าไปในไร่อ้อยของชาวบ้านที่อยู่บริเวณข้างเคียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและชาวบ้านต้องช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไวได้ พบไร่อ้อย ป่าต้นสน และไร่สับปะรดของชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 10 ไร่
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม พบรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ทราบสี หมายเลขทะเบียน บธล 813 เพชรบุรี ในสภาพล้มอยู่กลางไร่อ้อย ถูกเพลิงเผาไหม้เหลือแต่โครงรถได้รับความเสียหายทั้งคัน ในที่เกิดเหตุยังตรวจพบ เครื่องรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าไม่ทราบรุ่นถูกชำแหละทิ้งไว้ 1 เครื่อง โช้กหลังรถจักยานยนต์ 1 ข้าง กุญแจขันนอต 1 อัน มีดพก 1 เล่ม และอุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวนหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายวัชระ ปีเปรม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.1 บ้านทุ่งแฝก ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้าน ได้มีเพื่อนที่มีไร่อ้อยอยู่ติดกันโทร.มาแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ไร่อ้อยให้ช่วยออกไปดูหน่อย ตนจึงรีบออกมาดูพบเพลิงกำลังลุกไหม้ไร่อ้อยของเพื่อนอย่างรุนแรง และพบมีจักรยานยนต์ถูกเพลิงเผาไหม้จนวอด 1 คัน อยู่บริเวณถนนกลางไร่อ้อยจึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นตนได้อ้อมไปอีกฝั่งของไร่อ้อยเพื่อนเพื่อไปช่วยดับเพลิงที่กำลังลุกลามไหม้ไร่อ้อยของตนเองที่อยู่ติดกันจนเพลิงสงบใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นตนได้ย้อนกลับมาดูที่รถจักรยานยนต์ถูกเผา พบว่า รถจักรยานยนต์ที่ถูกเผาบนถนนทางเดินกลางไร่อ้อยของเพื่อนหายไป จึงเข้าไปค้นหาพบรถจักรยานยนต์ถูกลากเข้าไปหมกในไร่อ้อย ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 4 เมตร พบป้ายทะเบียนรถที่ตอนแรกเอามือถือถ่ายไว้ยังมีอยู่ แต่ตอนนี้ได้หายออกไปจากซากรถแล้ว เหลือเพียงแต่ซากรถให้ดูต่างหน้า ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนมาลากเข้าไปซ่อนในป่า และทำไปเพื่ออะไร หรือคนร้ายอาจจะเผารถเพื่อทำลายหลักฐาน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บซากรถไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามหาเจ้าของ และจะตรวจสอบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่ หรือถ้าถูกโจรกรรมมาจะติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
