พิจิตร – ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขอบรมการใช้สารกัญชาทางการแพทย์เน้นย้ำเป้าหมายต่อยอดแพทย์แผนไทย และจะขยายคลินิกกัญชาทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จนครบ 12 แห่ง ใน จ.พิจิตร ในต้นปี 2563
วันนี้( 23 ธ.ค. 2562 ) นายแพทย์บุญชัย ธีระกาญจน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 3 เป็นประธานเปิดอบรมการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรมมีพรสวรรค์ จ.พิจิตร โดยมี นายธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร , นพ.วิศิษฐ์ อภิสิทธิ์วิทยา รอง นพ.สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร , นายแพทย์สุรชัย แก้วหิรัญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร , นายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายท่าน ร่วมเป็นวิทยากรในการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่ผู้ที่เข้าอบรมที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เภสัชกร และแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ ของจังหวัดพิจิตร และจังหวัดอื่นๆ ในเขตสุขภาพที่ 3 รวมทั้งสิ้น 200 คน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจของการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ทั้งแบบแผนปัจจุบันและแบบแพทย์แผนไทย ซึ่งปัจจุบันนี้การใช้สารสกัดกัญชาถือเป็นทางเลือกของผู้ป่วยที่หากต้องการใช้ต้องแจ้งร้องขอกับแพทย์เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมก่อนจึงจะใช้ได้
นายแพทย์บุญชัย ธีระกาญจน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 3 กล่าวว่า ในการอบรมครั้งนี้เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดความเข้าใจที่ตรงกันถึงรูปแบบและวิธีการใช้สารสกัดกัญชาที่ปัจจุบันนี้มีประมาณ 3-4 รูปแบบ โดยในแต่ละแบบมีคุณลักษณะโดดเด่นที่แตกต่างกัน อีกทั้งอยากให้บุคลากรทางการแพทย์เก็บข้อมูลวิเคราะห์ว่า การนำสารสกัดกัญชาไปใช้กับผู้ป่วยประเภทใด อาการป่วยแบบไหน ใช้ได้ผลหรือมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง ? เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาต่อยอดในการใช้สารสกัดกัญชาควบคู่กับพืชสมุนไพรไทย ที่ต้องใช้สารสกัดกัญชาควบรวมอยู่ด้วย
รวมถึงต้องคิดวิเคราะห์ว่า การใช้สารสกัดกัญชาควบคู่กับพืชสมุนไพรไทยอย่างไหนใช้ได้ดี ถูกกับการรักษาโรค รวมถึงมีต้นทุนแตกต่างมากน้อยแค่ไหน เพื่อเปรียบเทียบกับกับยาแผนปัจจุบัน โดยย้ำว่าถ้าใช้ยาสมุนไพรไทยแล้วได้ผล ถึงแม้ว่าจะมีต้นทุนสูงกล่าวยาแผนปัจจุบันหรือยาเคมีเล็กน้อย ก็ขอให้เลือกหยิบใช้ยาสมุนไพรไทย
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งเสริมต่อยอดแพทย์แผนไทย รวมถึงจะได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพรไทยเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงยา จะทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชสมุนไพรเป็นรายได้เสริมนอกเหนือจากการทำไร่ ทำนา มิใช่มุ่งหวังรอแต่จะปลูกกัญชาขายแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าปลูกพืชสมุนไพรไทยทำได้ง่ายๆ ขายได้ง่าย ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เชื่อมั่นว่าทำก่อน รวยก่อน แน่นอน เพราะกระแสผู้รักสุขภาพกำลังมาแรง
ในส่วนของพื้นที่จังหวัดพิจิตรขณะนี้มีเพียง รพ.สต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร ทำเรื่องขอและได้รับอนุมัติแล้วให้เป็นพื้นที่นำร่องและแหล่งเรียนรู้ในการปลูกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ให้ได้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกด้วย
นายแพทย์บุญชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันกัญชายังไม่ใช่พืชเสรีที่ใครๆก็จะปลูกหรือจะมีได้ ดังนั้นการที่จะมี จะใช้ จะปลูก ต้องทำเพื่อการแพทย์และต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนใครที่ต้องการใช้สารสกัดกัญชาสามารถติดต่อได้ที่คลินิกกัญชาทางการแพทย์ รพ.พิจิตร ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2562 แล้ว และจะขยายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จนครบ 12 แห่ง ใน จ.พิจิตร ในต้นปี 2563 ต่อไปอีกด้วย