ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “พรรคพัฒนาชาติ” พรรคการเมืองน้องใหม่ประกาศสู้ไม่ถอยเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ชาวขอนแก่นเขต 7 ที่พร้อมจะก้าวข้ามความขัดแย้งและมุ่งแก้ปัญหาท้องถิ่นและประเทศชาติอย่างจริงจัง ย้ำร่วมรัฐบาลได้กับทุกพรรค โหมหาเสียงโค้งสุดท้ายนำหมอลำชื่อดังพบปะขอคะแนนเสียงจากชาวหนองเรือ
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลดอนโมง ต.ดอนโมง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นายชนาธิป ตามสมัย หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติ ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรค คือ ดร.สุทัศน์ ผลบุญ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หมายเลข 4 เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.หนองเรือ และ อ.มัญจาคีรี) ซึ่งเป็นการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง 22 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
การลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยสีสันและรอยยิ้มของชาวบ้าน เนื่องจากทางพรรคได้นำทีมคณะหมอลำชื่อดังของภาคอีสานมาพบปะเพื่อขอคะแนนเสียงจากชาว อ.หนองเรือ ระหว่างหาเสียงมีทั้งเสียงร้องลำและการร่วมฟ้อนรำของพี่น้องชาวบ้านอย่างสนุกสนาน เรียกความสนใจจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 7 ขอนแก่นได้เป็นอย่างมาก
นายชนาธิป ตามสมัย หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติ กล่าวว่า แม้พรรคพัฒนาชาติจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กและเพิ่งจัดตั้งขึ้นไม่นาน แต่การส่งผู้สมัครหน้าใหม่ลงสนามเลือกตั้งครั้งแรก และถือเป็นเขตเลือกตั้งแรกในไทยที่พรรคส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เพราะต้องการเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนที่ต้องการก้าวผ่านความขัดแย้งและเป็นทางเลือกใหม่ที่ไม่ใช่การเมืองแบบเดิมๆ ที่พี่น้องชาวไทยเอือมระอากันเต็มทน
อย่างไรก็ตาม แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนัก แต่พรรคและผู้สมัครของพรรคได้จะลงพื้นที่หาเสียง แนะนำนโยบายพัฒนาชาติพัฒนาท้องถิ่นให้แก่ประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องทุกวันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงอยากจะขอคะแนนจากพี่น้องชาวอำเภอหนองเรือ และอำเภอมัญจาคีรี ให้ ดร.สุทัศน์ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องในสภาฯ สักครั้ง รับรองจะไม่ผิดหวัง
“พวกเราทุ่มเทกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก เดินหาเสียงแบบเคาะถึงประตูบ้าน บุกท้องไร่ท้องนา ต่อเนื่องทุกวัน ที่สำคัญ การเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ได้ต้องการที่จะตัดคะแนนใคร แต่ขอทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ที่สุด” นายชนาธิปกล่าว และว่า
สำหรับนโยบายของพรรคพัฒนาชาติ มีความมุ่งมั่นชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนอย่างตรงจุด โดยเฉพาะคนสูงอายุ คนพิการ และคนตกงาน ที่ต้องได้รับเงินชดเชยเยียวยารายเดือนทันทีคนละ 3,000 บาท การจัดสรรเงินกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 5 ล้านบาทที่เท่ากันทุกหมู่บ้านเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจและก่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
รวมถึงการลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 5 เพื่อให้ราคาสินค้าลดลงจนนำไปสู่การมีสภาพคล่องทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ไม่นับรวมถึงนโยบายการยกเลิกหนี้ กยศ. และจัดสรรในเรื่องของสวัสดิการการเรียนที่ต้องเรียนฟรี ตั้งแต่ระดับอุบาลฯ จนถึงระดับปริญญาตรีอย่างเท่าเทียมกันทุกคน
อย่างไรก็ตาม นายชนาธิประบุอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพัฒนาชาติไม่หนักใจที่ต้องหาเสียงต่อสู้กับผู้สมัครจาก 3 พรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งหากพรรคสามารถเอาชนะได้ในเขตเลือกตั้งที่ 7 ขอนแก่นครั้งนี้ก็ขอประกาศเข้าร่วมรัฐบาลกับทุกพรรคการเมือง เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาประชาชนในระดับฐานรากได้อย่างตรงจุด
“พรรคพัฒนาชาติทำงานได้กับทุกพรรคการเมือง แม้เราจะเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ขนาดเล็ก แต่ความตั้งใจของพรรคเราคือการก้าวข้ามความขัดแย้ง และขอเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้ที่ไม่ชอบการเมืองแบบเก่า การเมืองไทยยุคใหม่ต้องไม่สาดโคลนกันไปมา ต้องทำการเมืองที่สร้างสรรค์ ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง” นายชนาธิปกล่าวย้ำ