ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นักธุรกิจหนุ่มใจดีควักเงินนำสาวน้อย 5 ขวบชีวิตสุดอาภัพถูกไฟไหม้พิการตั้งแต่ทารก พร้อมเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนจากอมก๋อยเที่ยวชมเชียงใหม่ซูอควาเรียมและสวนสัตว์ หลังที่ก่อนหน้านี้ประกาศช่วยเงินเดือนละ 3,000 บาทตลอดชีพ
จากกรณีที่ช่วงต้นเดือน พ.ย. 62 โซเชียลมีเดียมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือให้เด็กหญิงปิยะพร หลวงแก้ว อายุ 5 ขวบ เชื้อสายกะเหรี่ยง นักเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนบ้านขุนตื่น ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพิการแขนขวาที่ต้องถูกตัดทิ้งและมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า รวมทั้งตามร่างกายจากการถูกไฟไหม้ตั้งแต่เป็นทารกที่นอนกลิ้งตกลงไปในกองไฟที่จุดคลายหนาว
โดยเด็กหญิงปิยะพรมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบากกับยายที่มีฐานะยากจนตามลำพัง เพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่เป็นทารก และพ่อไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งจากนั้นได้มีผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือให้จำนวนมาก โดยเฉพาะนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ นักธุรกิจผู้บริหารเชียงใหม่ซูอควาเรียม ที่สนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายให้เด็กหญิงปิยะพร เพื่อใช้จ่ายในครอบครัวและเป็นทุนการศึกษาเดือนละ 3,000 บาท ตลอดชีวิต
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เด็กหญิงปิยะพร พร้อมด้วยเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบ้านขุนตื่น จำนวน 32 คน และคณะครู 9 คน เดินทางเข้าเที่ยวชมส่วนจัดแสดงต่างๆ ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า และสโนว์โดม รวมทั้งเชียงใหม่ซูอควาเรียม ตามคำเชิญของนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ นักธุรกิจผู้บริหารเชียงใหม่ซูอควาเรียม ซึ่งเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางให้คณะครูและนักเรียน รวมทั้งประสานขอความอนุเคราะห์จากทางสวนสัตว์เชียงใหม่ในการให้คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านขุนตื่นเข้าเที่ยวชมและทัศนศึกษาฟรี เด็กหญิงปิยะพร พร้อมทั้งเด็กนักเรียน ต่างตื่นเต้นดีใจและมีความสุขอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้เดินลอดอุโมงค์ใต้น้ำชมปลาหายากนานาชนิด เช่น ฉลาม, ปลากระเบน และเต่าทะเล เป็นต้น ซึ่งเด็กส่วนใหญ่เพิ่งเคยเห็นตัวจริงเป็นครั้งแรกในชีวิต
นายนฤทัตกล่าวว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมาทราบข่าวเกี่ยวกับเด็กหญิงปิยะพรที่มีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากอาศัยอยู่กับยายเพียงลำพังและมีฐานะยากจนมาก จึงตัดสินใจที่จะให้การช่วยเหลือด้วยการมอบเงินให้เดือนละ 3,000 บาท ทุกเดือนไปตลอดชีวิต เพื่อให้เด็กหญิงปิยะพรใช้จ่ายในครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา
ขณะที่ต่อมาเกิดความคิดว่าเด็กหญิงปิยะพร รวมทั้งเพื่อนเด็กนักเรียนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลเช่นนั้นอาจจะยังไม่เคยมีโอกาสหรือไม่ทราบว่าเมื่อใดจะมีโอกาสได้มาเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่และเชียงใหม่ซูอควาเรียม จึงได้ร่วมกับสวนสัตว์เชียงใหม่จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งเมื่อได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของเด็กนักเรียนกลุ่มนี้แล้ว โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกมีความสุขไปด้วย และยิ่งรู้สึกประทับใจอย่างมากที่คณะครูและเด็กนักเรียนได้มอบเสื้อประจำเผ่ากะเหรี่ยงที่ตั้งใจถักทอให้ตัวเองโดยเฉพาะด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ นั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 200 กิโลเมตร และการเดินทางค่อนข้างยากลำบาก เฉพาะจากพื้นที่ตำบลสบโขงเข้าไปตัวอำเภออมก๋อยระยะทางประมาณ 40 กว่ากิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์กว่า 2 ชั่วโมง และหากเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งคณะเด็กนักเรียนและครูจากโรงเรียนบ้านขุนตื่นที่เดินทางเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่และเชียงใหม่ซูอควาเรียมในครั้งนี้ต้องออกเดินทางตั้งแต่วานนี้ (24 พ.ย.) แล้วพักค้างคืนที่ตัวอำเภอก่อนคืนหนึ่งแล้วรุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่