กาญจนบุรี - น้ำตานองของลูกผู้ชาย ผู้พันพาน้องคนเล็กกลับบ้านเยี่ยมยาย อายุ 98 ปี หลังเข้ารับราชการเป็นทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2562 พร้อมทั้งได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น และเวชภัณฑ์ให้แก่ครอบครัวทหารใหม่ รวมทั้งเงินบำรุงขวัญ
พ.ท.ประจักษ์ ระลึก ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 (ร.29 พัน.3) ค่ายสุรสีห์ เผยว่า วานนี้ (22 พ.ย.) ได้เดินทางพร้อมด้วย ร.อ.ฉัตรชัย เหง้าพรหมมินทร์ นายทหารยุทธการ และ ร.ต.กัมปนาท เนยไธสง ผู้ช่วยผู้ฝึกทหารใหม่ เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพบปะให้กำลังใจครอบครัวของพลทหาร บัณฑิต อินทขันตี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 ที่เพิ่งเข้ารับราชการเป็นทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2562 พากลับบ้านไปเยี่ยม นางดี จอวัน ซึ่งเป็นคุณยายอายุ 98 ปี
โดยมีปัญหาทางสุขภาพการได้ยิน ตอนนี้อยู่บ้านเพียงลำพัง พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 87 ม.7 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ทั้งนี้ เมื่อพลทหารบัณฑิต อินทขันตี ถึงบ้านได้รีบลงรถไปพบยาย เข้ากราบเท้ายายและโอบกอด สร้างความตื้นต้นใจให้แก่คณะผู้บังคับบัญชาที่ร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้จนน้ำตาซึม พร้อมทั้งได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น และเวชภัณฑ์ให้แก่ครอบครัวทหารใหม่ รวมทั้งเงินบำรุงขวัญ
พ.ท.ประจักษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 และผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ที่มีความห่วงใยครอบครัวทหารกองประจำการ รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยเฉพาะพลทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวของกองทัพบก
เพื่อให้ได้รับสิทธิสวัสดิการ ได้รับความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต สมกับที่ได้เสียสละเข้ารับราชการทหารกองประจำการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคลายกังวลให้แก่ทหารขณะเข้าประจำการ จากการสอบถาม พลทหารบัณฑิต ทราบว่า ครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน ตนเป็นคนสุดท้อง โดยพี่ชายคนโตโดนไฟดูดเสียชีวิต พี่ชายคนรองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก
สำหรับน้องพลทหารบัณฑิต เองเคยประสบอุบัติเหตุโดนรถ 10 ล้อทับตัว ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเล่นกับเพื่อน ตอนอายุ 10 ขวบ แต่ด้วยทางบ้านมีฐานนะยากจนไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงได้รักษาแบบชาวบ้านทำให้มีอาการสมองช้า การรับรู้หรือการเข้าใจจะช้ากว่าคนทั่วไป และพักอาศัยอยู่กับยายเพียง 2 คน มีอาชีพเหลาทางมะพร้าวขาย กิโลละ 8 บาท โดยจะมีคนมารับซื้อเพื่อไปทำเป็นไม้กวาด วันหนึ่งจะเหลาได้ประมาณ 7-8 กิโลกรัม รายได้ไม่เกิน 200 บาท โดยก่อนที่พลทหารบัณฑิต มาเข้ารับราชการทหารกองเกิน (จับได้ใบแดง) มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และช่วยเหลือยายในการเหลาทางมะพร้าว ซึ่งในตอนนี้ได้ฝากให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือดูแลอยู่
นอกจากนี้ ทางหน่วยเตรียมการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยทำการปรับปรุงที่พักอาศัย และรับซื้อทางมะพร้าวให้แก่กลุ่มแม่บ้านของหน่วย เพื่อทำเป็นไม้กวาด ตลอดจนกองทัพบกจะดูแลพลทหารกองประจำการทุกนายเหมือนคนในครอบครัว เพื่อให้ทางน้องๆ ทหารหมดห่วงและมีความสบายใจตลอดระยะเวลาที่เข้าเป็นทหารกองประจำการ